จัดระเบียบโซนทำงาน ช่วง WFH อย่างไรให้ไอเดียกระฉูด

จัดระเบียบโซนทำงาน ช่วง WFH อย่างไรให้ไอเดียกระฉูด

ถึงแม้สถานการณ์ COVID – 19 จะผ่านไปอยู่ในระดับที่ดีกว่าอดีตมาก แต่รูปแบบการใช้ชีวิตของเราทุกคนก็ถูกปรับเปลี่ยนเป็นแบบ New Normal ไปซะแล้ว เช่นเดียวกับสังคมการทำงาน หลายบริษัทห้างร้านก็อาจเรียกคืนพนักงานสู่ออฟฟิศ แต่กับบางบริษัทก็ยังคงมีนโยบาย ทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home กันแบบลากยาวไม่มีกำหนด ไหนจะชาวฟรีแลนซ์ ผู้บุกเบิกการทำงานจากบ้านมาแต่ไหนแต่ไร กลายเป็นว่าวัยทำงานส่วนใหญ่ต้องปรับตัวให้ชินกับการทำงานรูปแบบใหม่ให้ได้ในยุคปัจจุบัน ถึงอย่างนั้น การทำงานจากสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่า ‘บ้าน’ แม้จะมีความยืดหยุ่นสูง สะดวกและได้เปรียบเรื่องเวลา แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรค เพราะวงจรชีวิตของชาว WFH อาจต้องเผชิญกับความยืดหยุ่นที่มากเกินไป ไหนจะการจัดระเบียบของบ้านที่ไม่เอื้อต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้ความ Productive หรือแรงกระตุ้นในการทำงานนั้นหดหาย กลายเป็นว่า เกิดอาการเบื่อหน่ายและไม่มีไอเดียจะสร้างผลงานใหม่ ๆ ได้ดีเหมือนเดิม

และรู้หรือไม่ว่า แค่การปรับเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการจัดโซนทำงานที่บ้านใหม่ให้พร้อมต่อการ WFH นับเป็นแนวทางแก้ไขที่ช่วยได้มากทีเดียว วันนี้ Kudos เลยจะพาทุกคนมาดู ‘ฮาวทูการจัดระเบียบโซนทำงานที่บ้านในช่วง WFH’ จัดอย่างไรให้ทำงานได้คล่องสมใจ ไอเดียกระฉูด!

10 เคล็ดไม่ลับ กับการจัดระเบียบโซนทำงานที่บ้าน ให้ WFH อย่าง Productive !

10 เคล็ดไม่ลับ กับการจัดระเบียบโซนทำงานที่บ้าน ให้ WFH อย่าง Productive !

 

1. หามุมหรือโซนที่เหมาะที่สุด

สำหรับชาวคอนโด หอพัก หรือแม้แต่บ้าน ที่ไม่ได้มีสัดส่วนรองรับการทำงานเป็นพิเศษ สิ่งที่ควรใส่ใจเป็นอันดับแรก คือการแยกโซนให้ชัดเจนระหว่างเตียงนอน จุดพักผ่อนนั่งเล่น และโต๊ะทำงาน จากนั้นให้หามุมหรือพื้นที่ที่เหมาะสมในการวางโต๊ะทำงานสักตัว ซึ่งมุมนั้นอาจพิจารณาจากความสะดวกสบาย ไม่รู้สึกอึดอัด อาจเป็นมุมที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง และต้องห่างไกลจากสิ่งรบกวนใจ โดยสามารถจัดชิดริมหน้าต่าง ชิดผนัง หรือ ทแยงมุมกับฝั่งประตู มุมทำงานที่ใช่ จะสร้างพลังงานที่ดีให้พร้อมต่อการ WFH

 

2. เปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติ

ถึงแม้ชาวฟรีแลนซ์หลายคนจะชอบทำงานยามกลางคืน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แสงสว่างยามกลางวันที่สดใส ก็ให้ความรู้สึกที่ดีไปอีกแบบ การหันโต๊ะเข้าหาแสงธรรมชาติ สามารถช่วยให้เราได้รับพลังงานใหม่ ๆ ช่วยเสริมความผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดจาการเพ่งหน้าจอทำงาน แถมยังช่วยให้เรามีสมาธิจดจ่อกับงานได้มากขึ้น และที่สำคัญ แสงจากธรรมชาติ ยังมีประโยชน์ต่อสายตาได้ดีกว่าแสงสังเคราะห์

 

3. จัดหา Network Router ดี ๆ

สิ่งคู่กายของเหล่าชาว WFH นอกเหนือจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การมีอินเทอร์เน็ตดี ๆ ที่เอื้อต่อการทำงานอย่างไม่ขาดตอน คือการสร้างสภาพแวดล้อมทำงานที่ดีในระดับหนึ่ง นอกจากนั้น เราจำเป็นต้องจัดวางเร้าเตอร์ให้อยู่ในจุดที่กระจายสัญญาณได้ดี หากอุปกรณ์มีสายไฟระโยงระยางต้องจัดเก็บให้เป็นระเบียบ ไม่เกะกะโต๊ะทำงาน เพราะนั่นอาจสร้างความไม่เป็นระเบียบ ซึ่งมีผลต่อบรรยากาศการทำงานมาก

 

4. รูปแบบโต๊ะและประโยชน์ใช้สอย

โต๊ะทำงาน คือแก่นสำคัญที่ไม่อาจขาดได้ ทั้งในออฟฟิศและบ้าน แต่การจัดหาโต๊ะทำงานสักตัว จำเป็นต้องใส่ใจในขนาดโต๊ะและประโยชน์ใช้สอยเป็นพิเศษ บางบ้านมีพื้นที่ทำงานกว้างขวาง ก็สามารถจัดวางโต๊ะขนาดใหญ่ที่รองรับการทำงานแบบ Multitasking ได้ สามารถวางอุปกรณ์ให้ครบพร้อมในที่เดียว แต่สำหรับใครที่มีพื้นที่จำกัด จำเป็นต้องมองหาขนาดโต๊ะที่เล็กลงมาแต่พร้อมไปด้วยฟังก์ชัน ทั้งลิ้นชัก ช่องเก็บของ เพื่อที่เราจะสามารถใช้ประโยชน์ใช้สอยได้คุ้มค่า สามารถหยิบของสำคัญใกล้ตัวได้ โดยไม่ต้องลุกจากที่ให้เสียเวลา มากไปกว่านั้น ปัจจุบัน มีโต๊ะทำงานที่ออกแบบมาให้ปรับระดับได้ แถมรองรับการยืนทำงานเสริมสุขภาพได้อีกด้วย

เทคนิคจัดระเบียบบ้าน

 

5. เก้าอี้ดีต่อใจ ไม่ปวดหลัง

‘เก้าอี้’ เฟอร์นิเจอร์ที่วัยทำงานยุคนี้ให้ความใส่ใจมาก ๆ นอกจากจะต้องดีต่อใจ ก็ต้องดีต่อสุขภาพตามมาด้วย เพราะในบริบทการทำงานจากบ้าน หลายครั้งที่การโฟกัสงานมากๆมักพาให้เรานั่งยาวติดต่อกันนานหลายชั่วโมง บทจะลุกเดินไปมาแค่ครู่เดียวก็กลับมานั่งต่อ นั่นเท่ากับว่า การทำงานจากบ้าน เราใช้เวลาไปกับการนั่งมากกว่าตอนทำงานที่ออฟฟิศซะอีก ฉะนั้น จะทำงานอย่าง Productive เราก็ต้องลงทุนกับเก้าอี้ที่ดีต่อเราทั้งในแง่ความสบายและสุขภาพ ต้องมีการออกแบบมาให้ถูกต้องตามการยศาสตร์ (Ergonomics) ที่จะให้ประโยชน์โดยตรงต่อร่างกายและนั่นจะส่งผลให้เรามีสมาธิกับงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด    

 


6. เตรียมอุปกรณ์และจัดระเบียบโซนเก็บของ

การทำงานจากบ้าน เราควรเตรียมพร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำงานราวกับว่าเรานั้นกำลังทำงานที่ออฟฟิศสักแห่ง ความพร้อมตรงนี้จะช่วยให้เราหยิบใช้อุปกรณ์ได้อย่างสะดวกทันใจ ไม่เสียจังหวะ รวมถึงการจัดระเบียบโซนเก็บของให้เรียบร้อย การหากล่องอเนกประสงค์สักใบหรือชั้นวางมินิมอลเรียบ ๆ เพื่อเป็นพื้นที่วางเอกสารหรือสิ่งของจำเป็นที่เตรียมไว้ จะเป็นการแยกโซนใช้งานและโซนจัดเก็บได้เป็นอย่างดี หมดปัญหาวางกองบนโต๊ะจนรกรุงรัง

 


7. ใส่ Mood & Tone ที่ใช่ในสไตล์ที่ชอบ

การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช่ในแบบที่ชอบ มักส่งผลต่อความอารมณ์ความรู้สึกให้คล้อยตามไปในทางที่ดีเสมอ ฉะนั้น การทำงานจากที่บ้าน เราต้องแปลงโฉมพื้นที่เหมาะสมนั้นให้เป็นสวรรค์แห่งการทำงานให้ได้ ด้วยการเลือก Mood & Tone ที่ตรงสไตล์ เริ่มด้วยการเลือกสีโปรดในโทนสบายตา วัสดุผิวสัมผัสของโต๊ะทำงานก็มีส่วน โดยเฉพาะกับวัสดุจากไม้ มักให้ความเรียบง่าย สบายๆ แต่ก็สร้างแรงบันดาลใจไปในตัว นอกจากนี้การตกแต่งพื้นที่โดยรอบที่เข้ากัน สามารถผลักดันให้เราขยันทำงานได้มากขึ้นอีกด้วย !

 


8. ต้นไม้สีเขียว ช่วยเยียวยา

อีกหนึ่งความจริงที่ว่า ธรรมชาติมักเยียวยาเราได้เสมอ… บ่อยครั้งที่การทำงานจากบ้าน ผลักดันให้เราโฟกัสกับงานจนเลยเวลาพักผ่อน ตกตะกอนจนเกิดเป็นความตึงเครียดที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและใจ และต้นไม้ใบเขียวขนาดเล็กนี่เองที่สามารถช่วยเยียวยาเราได้อย่างเหลือเชื่อ เคยมีการวิจัยระบุว่า การวางต้นไม้บนโต๊ะทำงานสามารถทำให้เราผ่อนคลายและบรรเทาอาการเครียดได้เพียงแค่มองเห็น นอกจากนี้การปลูกต้นไม้ที่มีคุณสมบัติฟอกอากาศ ก็จะยิ่งช่วยให้คุณภาพภายในพื้นที่ทำงานของเรานั้นน่าอยู่มากขึ้น ได้ฟีลความเป็นธรรมชาติและผ่อนคลายอยู่เสมอ 

 


9. จัดมุมพักผ่อนเฉพาะ

ถัดจากมุมทำงานที่ต้องแยกตัวชัดเจนกับเตียงนอน เราควรอย่างยิ่งที่ต้องหา จุดพักผ่อนเล็กๆ อย่างมุมห้องหรือโซฟาโปรด ทำการแยกส่วนให้แน่ชัดเพื่อสร้างนิสัยการทำงานเป็นเวลาและไม่ลืมที่จะพักผ่อนเป็นเวลาด้วย มุมพักผ่อนส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งเอนเตอร์เทนมากมาย แต่ต้องสามารถรองรับการนั่งพักอย่างสบาย เป็นมุมดื่มกาแฟยามเช้าหรือสายได้ และเป็นมุมที่เราจะได้ละทิ้งตัวงานมาครู่หนึ่ง

 


10. สร้างบรรยากาศและกลิ่นหอม

นอกเหนือจากองค์ประกอบสำคัญ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือ สีเขียวจากธรรมชาติ การสร้างบรรยากาศด้วยเสียงเพลงคลอเบาๆ จะยิ่งสร้างความตื่นตัวให้เราได้อยู่เสมอ ผนวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆจากเทียนหอม น้ำมันหอมระเหย หรือ เครื่องพ่นไอน้ำ (Aromatherapy Humidifier) จะยิ่งยกระดับบรรยากาศที่น่าทำงานมาอีกขั้นหนึ่ง เพราะกลิ่นหอม จะส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกอย่างรวดเร็ว ทำให้เรารู้สึกแอคทีฟ และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้เราจะ WFH อยู่กับบ้านก็ตาม

แนะนำอ่านต่อ : ทริกดีมีสาระ : จัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่อาศัย เพิ่มความสุขกายสบายจิต

และถึงแม้ว่าการทำงานรูปแบบนี้จะไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ แน่นอนว่าการ WFH อาจได้ถูกระบุเป็น Workplace Culture แบบใหม่ในหลายบริษัทไปแล้ว ฉะนั้น Kudos หวังว่าทั้ง 10 ไอเดียเด็ด เคล็ดไม่ลับบทความนี้จะช่วยให้ เหล่าชาว WFH ทุกคนได้มีช่วงเวลาการทำงานจากบ้านอย่างมีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยความสุขที่สุด~

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *