สมองล้า คิดงานไม่ออก ให้ลองไปอาบน้ำ รู้จัก ‘Shower Effect’ ไอเดียดีๆ ที่มักมีตอนอาบน้ำ

สมองล้า คิดงานไม่ออก ให้ลองไปอาบน้ำ รู้จัก ‘Shower Effect’

เคยเป็นกันไหม เวลาที่เราต้องทำงานอะไรสักอย่างที่ต้องใช้สมาธิสูง หรือจริงจังมาก ๆ อยู่ดี ๆ ก็เกิดหัวตื้อ มึน ๆ เบลอ ๆ นึกไอเดียไม่ค่อยออกเสียอย่างนั้น หากใครกำลังเจอกับปัญหาเหล่านี้ บางทีอาจเป็นสัญญาณของอาการ “สมองล้า” ก็เป็นได้

อาการ “สมองล้า” หรือ “Brain Fog Syndrome” สามารถเกิดได้กับทุกคน มักเกิดขึ้นหลังจากที่เราใช้งานสมองอย่างหนักแบบไม่ได้พัก ไม่ว่าจะการทำงานติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ความเครียด การพักผ่อนน้อย ขาดการออกกำลังกาย ขาดสารอาหาร การได้รับสารพิษหรือสารเคมีบางอย่าง เช่น ยาฆ่าแมลง โลหะหนัก มลพิษ หรือแม้แต่คลื่นแม่เหล็กจากพวกคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือก็มีส่วน กิจวัตรเหล่านี้ส่งผลให้สมองของเราเกิดเครียดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทำให้เรารู้สึกไม่สดชื่น ขี้หลงขี้ลืม ความคิดสร้างสรรค์หดหาย ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ แถมยังส่งผลถึงอารมณ์ ทำให้เรากลายเป็นคนหงุดหงิดง่ายอีกด้วย นอกจากอาการสมองล้าจะส่งผลในระยะสั้นแล้ว หากเป็นบ่อย ๆ ในระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรั้งต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน หรืออาจถึงขั้นสมองเสื่อมกันเลยทีเดียว

แน่นอนว่าการจะห่างไกลจากอาการสมองล้าให้ได้ เราก็ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตแบบที่จะก่อให้เกิดอาการนี้ ตามสาเหตุที่ระบุข้างต้นให้ได้มากที่สุด พูดง่าย ๆ ก็คือ พยายามลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรืออาหารบำรุงสมองต่าง ๆ ไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์มากเกินไป หรือระหว่างพักจากทำงาน อาจจะลองไปทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น เดินเล่น ฟังเพลง หาเพื่อนคุย เมื่อปฏิบัติได้แล้ว อาการสมองล้าของเราก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยรีเฟรชสมองของเราได้แบบเห็นผลทันตา ทฤษฎีนี้มีชื่อว่า “Shower Effect” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการอาบน้ำนี่แหละ ว่าแต่การอาบน้ำจะช่วยเรื่องอาการสมองล้าได้จริงหรือ วันนี้เราจะมาไขคำตอบกัน

ชวนรู้จัก Shower Effect ไอเดียดี ๆ ที่มักมีตอนอาบน้ำ

ชวนรู้จัก Shower Effect ไอเดียดี ๆ ที่มักมีตอนอาบน้ำ

 

เขาว่ากันว่า ถ้าสมองล้า นึกอะไรไม่ออก ให้ลองไปอาบน้ำดู คำกล่าวที่ว่านี้มีการพิสูจน์ว่าได้ผลจริงตรงกับทฤษฎีที่ชื่อว่า “Shower Effect” ซึ่งหมายถึงผลลัพธ์หรือพลังบางอย่างที่เกิดจากการอาบน้ำ มีงานวิจัยหลายชิ้นออกมาระบุว่า การอาบน้ำช่วยให้สมองของเราจากที่ตื้อ ๆ นั้นสามารถคิดไอเดียเจ๋ง ๆ ออกมาได้ ซึ่งแต่ละงานวิจัยนั้นได้ทำการศึกษาไอเดียซึ่งเกิดระหว่างที่สมองอยู่ในสภาวะที่ไม่ได้โฟกัสกับอะไรบางอย่างมากจนเกินไป หรืออาจเรียกว่าเป็นสภาวะที่สมองได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อย (mind-wandering)

  • นักวิจัยจากคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัย Charles Sturt แห่งออสเตรเลียพบว่า ไอเดียมักเกิดจากตอนที่เราได้ทำกิจกรรมที่ได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อย โดยมักเกิดระหว่างการอาบน้ำถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เกิดระหว่างการเดิน 13 เปอร์เซ็นต์ และเกิดระหว่างการออกกำลังกาย 11 เปอร์เซ็นต์
  • ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาอย่าง John Kounios จากมหาวิทยาลัยเดร็กเซลพบว่า ไอเดียของคนเราจะเกิดขึ้นเองในช่วงที่สมองของเราไม่ได้จดจ่อกับอะไรมากเกินไป หรืออยู่ในช่วงที่ความคิดขาดหาย ซึ่งเราจะเรียกมันว่า “Aha! Moment” ช่วงเวลาที่อยู่ดี ๆ ก็นึก “อ๋อ” ขึ้นมา
  • Zac Irving นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียก็ได้ทำการทดลองโดยให้ผู้เข้าร่วมคิดหาไอเดียการใช้งานคลิปหนีบกระดาษหรืออิฐก้อน จากนั้นได้แบ่งกลุ่มคนเพื่อดูวิดีโอที่แตกต่างกันไป ผลการทดลองพบว่า คนที่ดูคลิปวิดีโอน่าเบื่ออย่างการแยกเสื้อไปซักนั้น ได้ไอเดียดี ๆ มากกว่าคลิปวิดีโอที่อาศัยสมาธิจดจ่ออย่างจริง ๆ จัง ๆ สรุปก็คือ การทำกิจกรรมที่มีการจดจ่ออย่างพอเหมาะ เช่น การเดินเล่น การอาบน้ำนั้น จะช่วยให้เกิดไอเดียดี ๆ ได้มากกว่า
  • Alice Flaherty นักประสาทวิทยาผู้โด่งดังในสหรัฐอเมริกากล่าวว่า กิจกรรมที่ทำให้เกิดการหลั่งสารโดพามีน (dopamine) หรือสารแห่งความสุขซึ่งจะทำให้สมองของเราผ่อนคลาย ใช้ความคิดน้อย ๆ นั้น จะให้เราคิดไอเดียดี ๆ ออกได้มากกว่า ซึ่งกิจกรรมที่ทำให้ทฤษฎีนี้เกิดประสิทธิผลมากที่สุดก็คือการอาบน้ำ และยังเรียกความคิดที่เกิดในระหว่างอาบน้ำว่า “ระยะฟักตัวของความคิด (incubation period)”

แท้จริงแล้วยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่ออกมาสนับสนุนว่าการอาบน้ำนั้นช่วยกระตุ้นให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้ดี เราสามารถสรุปได้ดังนี้

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า การอาบน้ำช่วยให้ร่างกายกระตุ้นสารแห่งความสุขซึ่งจะทำให้เราลืมความเครียด ความคิดตกอยู่ในสภาวะหยุดพักไปชั่วขณะ เปิดโอกาสให้ไอเดียใหม่ ๆ ผุดขึ้นมาได้

ความคิดของเราแบ่งได้เป็น “ความรู้สำนึก” และ “จิตใต้สำนึก” เมื่อสมองเข้าสู่โหมดพัก จิตใต้สำนึกจะเข้ามาทำงานแทน โดยจะเป็นการนำปัญหาหรือสิ่งที่เราต้องตั้งใจคิดเอาไปพักไว้เป็นเบื้องหลังก่อน นั่นจะทำให้เราได้มองปัญหาในมุมมองที่แตกต่างออกไป ระบบความคิดนี้เรียกว่า “ระยะฟักตัวของความคิด”

ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทำให้เกิดสมองล้านั้น บางครั้งเราต้องอยู่ท่ามกลางสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่จะมาดึงสมาธิเราออกไป แต่เมื่ออาบน้ำ ความคิดของเราจะจดจ่ออยู่แค่เพียงการอาบน้ำในห้องน้ำเล็ก ๆ ทำให้ความคิดและสมาธิของเราเป็นระเบียบได้มากกว่า

เมื่อได้สมองได้จดจ่อกับการอาบน้ำซึ่งมีเพียงเราในห้องน้ำคนเดียว บางครั้งอาจมีความคิดที่ผุดขึ้นมาในใจเราเงียบ ๆ คล้ายกับเวลาเราคุยกับตัวเอง และเมื่อได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อยแบบนั้นโดยไม่มีถูกหรือผิด เมื่อนั้นไอเดียใหม่ ๆ จึงเกิดขึ้น

ทีนี้พอจะเข้าใจกันบ้างหรือยังว่า ทำไมถึงควรอาบน้ำเมื่อมีอาการสมองล้า นั่นเพราะการอาบน้ำคือที่สุดของช่วงเวลาการผ่อนคลาย และถ้าอยากให้สมองได้รู้สึกพักอย่างเต็มที่ การสร้างสภาพแวดล้อม หรือเพิ่มอุปกรณ์ในการอาบน้ำเข้าไปนับว่ายิ่งดีเข้าไปอีก อย่างการเปลี่ยนมาใช้ “ฝักบัวนวดบำบัด Kudos X-Stream”

  • ฝักบัวที่มาพร้อมฟังก์ชันนวดบำบัด ด้วยเทคโนโลยี Hydro Massage ผ่านสายน้ำซึ่งจะช่วยนวดเฉพาะจุดที่เราเหนื่อยล้าได้
  • ฝักบัวแรงดันสูง สายน้ำไหลแรงแต่ไม่บาดผิว ได้ทั้งความผ่อนคลาย และผิวที่สุขภาพดี นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนรูปแบบของสายน้ำได้ตามความต้องการถึง 2 ฟังก์ชัน
  • มีฟิลเตอร์กรองคลอรีนให้เราชำระล้างร่างกายได้อย่างหมดจดและป้องกันอาการแพ้
  • ฝักบัวช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับฝักบัวทั่วไป
  • วัสดุแข็งแรงทนทาน มาตรฐานญี่ปุ่น
  • Made in Japan

เห็นฝักบัวที่มีคุณภาพและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์คนทำงานหนักขนาดนี้ คงต้องลองเปลี่ยนมาใช้ฝักบัวนวดกันหน่อยแล้ว ไม่ปล่อยให้อาการสมองล้ามารบกวนไอเดียบรรเจิดของเรา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *