สุขภัณฑ์ที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องมีในห้องน้ำนั้น นอกจากชักโครก ฝักบัวอาบน้ำ หรืออ่างล้างหน้าแล้ว ยังมีอุปกรณ์เล็ก ๆ อีกอย่างหนึ่งที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นคือ “สายฉีดชำระ” แม้เมื่อลองเทียบกับสิ่งอื่นในห้องน้ำแล้ว สายฉีดชำระดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสำคัญเท่า แต่เชื่อเลยว่าหากให้เลือกระหว่างห้องน้ำที่มีเพียงแค่กระดาษชำระ กับห้องน้ำที่มีสายฉีดชำระให้ หลายคนคงถูกใจห้องน้ำแบบหลังมากกว่าแน่นอน
แต่ในความถูกใจ เชื่อว่าหลายคนก็คงเคยเจอปัญหาสายฉีดชำระที่มีแรงดันน้ำสูงเกินไปแน่ ๆ เลยใช่ไหมหล่ะ ดังนั้นบทความในวันนี้ เราจึงมีเคล็ดลับสำหรับการเลือกสายฉีดชำระดี ๆ ทั้งด้านคุณภาพ และการใช้งานที่ตอบโจทย์มาฝากกัน
ปัญหาที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับสายฉีดชำระ
แต่ก่อนที่จะไปเลือกสายฉีดชำระที่ตอบโจทย์ เราควรมาศึกษากันก่อนว่าปัญหาเกี่ยวกับสายฉีดชำระที่เรามักพบเจอ มีอะไรบ้าง
- ไม่ทนทาน
สายฉีดชำระบางยี่ห้อ ตอนแรก ๆ ก็ใช้ดีอยู่หรอก แต่นานวันเข้า สายยางส่งน้ำหรือหัวสายฉีดชำระก็เริ่มแตก ส่วนของก้านกดก็หักจนใช้งานไม่ได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะสายฉีดชำระที่ใช้อยู่ อาจทำจากวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ หรือเป็นวัสดุที่มีความคงทนต่ำ อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ ก็คงต้องดูพฤติกรรมของผู้ใช้งานร่วมด้วย เช่น มักนำหัวสายฉีดชำระไปกระแทกกับอะไรแรง ๆ หรือไม่ หรือมักปล่อยให้ท่อสายส่งน้ำ งอจนแตกอยู่บ่อย ๆ หรือเปล่า
- น้ำรั่ว
บางทีอาจเจอปัญหาที่ว่ามีน้ำรั่ว น้ำซึม ไหลออกจากหัวสายฉีดชำระตลอดเวลา ทั้งที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ ซึ่งสร้างความกวนใจเป็นอย่างมาก ทั้งทำให้ห้องน้ำดูไม่สะอาด แล้วยังทำให้เปลืองน้ำอีก หลัก ๆ แล้วสาเหตุนี้มักมาจากสายฉีดชำระไม่สามารถรับแรงดันน้ำสูง ๆ ได้ หรือมาจากการไม่ได้ติดตั้งวาล์วเปิดปิดน้ำ ที่สามารถปรับแรงดันน้ำได้ซึ่งเรียกว่า สต๊อปวาล์ว (Stop Valve) หรืออาจมีสาเหตุมาจากส่วนประกอบภายในหัวสายฉีดเกิดการชำรุด เช่น ยางโอริงขาด ซึ่งเป็นอุปกรณ์เอาไว้กันรั่วซึม เป็นต้น
- ระดับความแรงน้ำไม่พอดี
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาหนักอกสำหรับผู้ใช้งาน เพราะบางทีก็เจอสายฉีดชำระที่เบาเกินไป หรือแรงเกินไปก็มี ปัญหานี้อาจเกิดมาจากการที่เราไม่ได้ติดตั้ง สต๊อปวาล์ว (Stop Valve) ทำให้มีระดับแรงดันน้ำไม่พอดี ซึ่งหากติดตั้งแล้ว เราจะสามารถมาปรับความแรงน้ำจากตรงนี้ได้

ส่วนประกอบของสายฉีดชำระ
สายฉีดชำระเป็นไอเทมเล็ก ๆ ในห้องน้ำก็จริง แต่ก็มีความสำคัญชนิดที่ว่าขาดไปไม่ได้ ดังนั้นเราจึงควรเลือกสายฉีดชำระที่มีคุณภาพเพื่อให้ใช้งานได้นาน ๆ และตอบโจทย์เรามากที่สุด แต่การจะเลือกสายฉีดชำระดี ๆ ได้สักอัน ก็จำเป็นต้องทราบส่วนประกอบกันก่อน
1. หัวฉีดชำระ : ส่วนนี้นับเป็นหัวใจสำคัญสำหรับสายฉีดชำระ หลัก ๆ แล้วสามารถแบ่งตามวัสดุที่ใช้ได้เป็น 3 ประเภท
- ทองเหลือง
แบบนี้มักเป็นที่นิยม เพราะมีความสวยงาม ดูหรูหรา อีกทั้งยังแข็งแรงคงทน ไม่เป็นสนิมได้ง่าย แต่ข้อเสียคือราคาจะสูงกว่าแบบอื่น
- หัวสเตนเลส
วัสดุจากสเตนเลสให้ความคงทนเช่นเดียวกับแบบโครเมียม แต่สิ่งที่ต่างกันและนับเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งก็คือจะเป็นสนิมได้ง่าย ดังนั้นจึงอาจต้องเปลี่ยนเมื่อมีสนิมเกิดขึ้น เพื่อสุขอนามัยที่ดี
- หัวพลาสติก
หัวสายฉีดชำระประเภทนี้จะมีน้ำหนักเบา และราคาย่อมเยากว่าสองแบบแรก อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่วัสดุทำจากพลาสติก เมื่อใช้ไปนาน ๆ จึงแตกหักได้ง่าย ไม่คงทน
- หัวพลาสติกชุบโครเมียม (Acrylonitrile Butadiene Styrene: ABS)
เป็นการนำเทอร์โมพลาสติกมาชุบเคลือบด้วยโครเมียม ทำให้ได้หัวสายฉีดชำระที่มีความทนทาน ทนกระแทกได้ดี ขณะเดียวกันก็ดูสวยงามหรูหรา ไม่เป็นสนิม
2. หัวกดสายฉีดชำระ : เป็นตัวเปิดปิดน้ำเมื่อเราต้องการใช้งาน หลัก ๆ แบ่งได้เป็น 2 แบบ
- แบบก้านกด
เป็นหัวกดที่เราพบได้ทั่วไปสำหรับสายฉีดชำระ ข้อดีคือให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน ควบคุมปริมาณน้ำได้ แต่ขณะเดียวกัน หากใช้วัสดุไม่ดีก็อาจแตกหักได้ง่าย
- แบบปุ่มกด
ลักษณะเป็นปุ่มกดให้น้ำไหลออกมาทีเดียว ข้อดีคือเราไม่ต้องกดตลอดเวลา ทำให้น้ำไหลออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ดูสวยงาม หมดข้อกังวลเรื่องก้านกดหัก ข้อเสียคือเราอาจไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำที่ออกมาได้
3. ข้อต่อส่วนบน : เป็นข้อต่อที่เชื่อมส่วนหัวกับสายฉีดเข้าด้วยกัน โดยทั่วไปแล้วมักจะมีให้มาเป็นชุดกับส่วนอื่น ๆ แต่บางครั้งวัสดุของข้อต่อที่แถมมาอาจไม่ได้คงทนนัก ดังนั้นจึงอาจเกิดการแตกหักได้ง่าย วิธีแก้ก็คือหาซื้อข้อต่อมาเปลี่ยนใหม่
4. สายหัวฉีดชำระ : สายฉีดเองก็มีหลากหลายประเภทให้เลือกเช่นกันตามความต้องการในการใช้งาน แบ่งได้หลัก ๆ ดังนี้
- สายพลาสติก หรือสายยาง PVC
ลักษณะเป็นเหมือนสายยางขนาดเล็ก ข้อดีคือมีราคาย่อมเยา ทนแรงดันน้ำได้ดี และไม่เป็นสนิม แต่ข้อเสียคือความยืดหยุ่นมีน้อยทำให้สายอาจแตกหักได้ง่ายหากไม่ดูแลให้ดี
- สายโลหะถัก
ลักษณะเป็นสายสีเงินทำจากโลหะ ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นดีที่สำคัญยังให้ความหรูหราสวยงามอีกด้วย แต่ข้อเสียก็คือ หากไม่เลือกโลหะที่เป็นโครเมียม เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจมีสนิมเกิดขึ้นได้ และยังมีราคาแพงกว่าแบบแรกอีกด้วย
5. สต๊อปวาล์ว (Stop Valve) : อย่างที่อธิบายไปแล้วว่าสต๊อปวาล์วนี้จะเป็นตัวเปิดปิดน้ำให้เข้ามาสู่ชักโครกหรือสายฉีดชำระ ทั้งยังช่วยควบคุมแรงดันไม่ให้น้ำแรงเกินไป ดังนั้นส่วนนี้จึงมีความสำคัญมากไม่แพ้กับส่วนด้านบนเลย

เลือกสายฉีดชำระอย่างไรให้น้ำไหลแรงแต่นุ่มละมุน
เมื่อศึกษาข้อดีและข้อเสียของสายฉีดชำระแต่ละแบบไปแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลามาเลือกสายฉีดชำระกันสักที เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องการสายฉีดชำระที่ให้น้ำแรง แต่ขณะเดียวกันก็ต้อง นุ่มละมุนไม่ทำร้ายผิว ฉีดแล้วไม่เจ็บ ดังนั้นเราจึงมีเคล็ดลับดี ๆ เพื่อตามหาสายฉีดชำระที่ใช่ของทุกคน
1. สามารถรับแรงดันน้ำได้ดี
สายฉีดชำระจะปล่อยน้ำให้ไหลแรงออกมาได้ก็ต้องเริ่มจากมีแรงดันน้ำที่ดีก่อน หากเรามีวาล์วเปิดปิดน้ำที่ปล่อยน้ำแรงดันสูงมาได้แล้ว แต่สายฉีดชำระกลับไม่สามารถรับแรงดันได้ดีพอ ก็อาจทำให้หัวฉีดชำระ หรือส่วนหัวของสายฉีดเกิดการชำรุดจนใช้งานไม่ได้ ปกติแล้วตามบ้านพักอาศัยทั่วไปควรใช้สายฉีดชำระที่รับแรงดันน้ำได้ตั้งแต่ 1.5 บาร์ขึ้นไป และควรรับได้สูงสุดถึง 4.0 บาร์
Building Types |
Water Pressure (bar) |
Residential Home |
1.5 – 3.5 |
Residential Home (Shower Installed) |
2.0 – 3.5 |
Apartment |
1.5 – 3.5 |
Condominium |
1.5 – 3.5 |
Luxury Condominium |
2.0 – 4.0 |
Office Building/Rental space |
1.5 – 3.5 |
Hotel |
2.0 – 4.0 |
Factory |
1.5 – 4.0 |
สายฉีดชำระจะปล่อยน้ำให้ไหลแรงออกมาได้ก็ต้องเริ่มจากมีแรงดันน้ำที่ดี หากเรามีวาล์วเปิดปิดน้ำที่ปล่อยน้ำแรงดันสูงได้แล้ว แต่สายฉีดชำระกลับไม่สามารถรับแรงดันได้ดีพอ ก็อาจทำให้สายฉีดเกิดการชำรุดจนใช้งานไม่ได้ ปกติแล้วตามบ้านพักอาศัยทั่วไปควรใช้สายฉีดชำระที่รับแรงดันน้ำได้ตั้งแต่ 1.5 บาร์ขึ้นไป และควรรับได้สูงสุดถึง 4.0 บาร์
2. วัสดุแข็งแรงทนทาน
เมื่อรับแรงดันน้ำได้ดีแล้ว แน่นอนว่าวัสดุของสายฉีดชำระก็ต้องตอบโจทย์ด้วย เช่น ควรใช้สายฉีดที่มีวัสดุทำจากโครเมียม หรือ ABS ซึ่งมีความทนทานดี รับน้ำแรงดันสูงได้ และไม่เกิดสนิม เพื่อให้น้ำไหลแรงอย่างมีคุณภาพ ทั้งยังใช้ได้ยาวนานอีกด้วย
3. หัวกดน้ำที่ช่วยให้น้ำไหลอย่างต่อเนื่อง
หลายคนอาจเคยเจอปัญหา เวลากดน้ำจากสายฉีดชำระแล้ว น้ำไหลออกมาไม่ต่อเนื่องจนทำให้รู้สึกหงุดหงิด ดังนั้นอาจจะต้องลองเลือกสายฉีดชำระที่มีหัวกดให้น้ำไหลออกมาได้แบบไม่ติดขัด เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน
4. รูน้ำที่ช่วยให้น้ำไหลอย่างนุ่มละมุน
หากเน้นเลือกแค่ว่าสายฉีดชำระต้องรับน้ำแรงดันสูง ๆ เท่านั้น แต่มองข้ามเรื่องรูปล่อยน้ำว่าต้องดีไซน์ให้สามารถรองรับ และปล่อยน้ำออกมาได้อย่างเหมาะสมไป ปัญหาที่อาจตามมาก็คือ น้ำที่ถูกปล่อยออกมาอาจจะแรงมากจนทำร้ายผิวของเราได้ ทุกคนเคยมรประสบการณ์ว่าฉีดชำระเเล้วรู้สึกเจ็บ รู้สึกสะดุ้งกันหรือเปล่า นั่นอาจเป็นเพราะสายฉีดชำระมีรูปล่อยน้ำที่ไม่รองรับกับเเรงดันน้ำก็เป็นได้ ดังนั้นเราควรพิจารณาการออกแบบรู ของหัวสายฉีดชำระด้วยว่ามีคุณสมบัติช่วยให้น้ำไหลแรง แต่นุ่มละมุนหรือไม่
สายฉีดชำระ แม้จะเป็นเพียงอุปกรณ์เล็ก ๆ ในห้องน้ำ แต่ก็มีความสำคัญและช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เป็นอย่างมาก ดังนั้นเราควรใส่ใจเลือกสายฉีดชำระที่ใช่ของตัวเอง โดยต้องคำนึงถึงวัสดุที่คงทนแข็งแรง รองรับแรงดันน้ำได้ดีเพื่อให้น้ำไหลแรง แต่ในขณะเดียวกันน้ำที่ไหลออกมาก็ควรมีความนุ่มละมุนไม่ทำร้ายผิว อย่าง สายฉีดชำระของ Kudos ที่คำนึงถึงปัจจัยและคุณสมบัติต่างๆ ที่สายฉีดชำระซักอันควรมี โดยมาพร้อมดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ใช้วัสดุ ABS ที่แข็งแรงทนทาน ใช้ระบบปุ่มกดเปิดปิดน้ำแทนก้านกด รองรับแรงดันน้ำได้มากถึง 5.0 บาร์ บวกกับมีหัวสายฉีดแบบ GENTLE FLOW ให้สายน้ำไหลสม่ำเสมอ ให้สัมผัสที่นุ่มละมุน ทั้งยังช่วยประหยัดน้ำได้อีกด้วย