Category Archives: ข่าวสารองค์กร

“Vælge” ก๊อกน้ำที่คุณสามารถ “เลือก” ในสิ่งที่เป็นตัวคุณ ก๊อกน้ำดีไซน์สวยที่ คว้ารางวัล DEmark2023

Vaelge1 1 -
Picture1 1 -

Vælge เวรี่ย์

ที่มาและแนวคิดในการออกแบบ (Design Concept / Design Thinking)

  โลกทุกวันนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว คนในโลกเองก็เช่นกัน ก็ต่างพัฒนาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนผ่าน ทั้งความคิด นิสัย ความเป็นอยู่ ความสะดวกสบาย ทุกๆ คนล้วนต้องการ “เลือก” สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง เราจึงออกแบบก๊อก “เวรี่ย์” ที่ทุกคนสามารถ “เลือก” ในสิ่งที่ตัวเองชอบ และใช้ได้กับทุกๆ คน

กลยุทธ์ในการออกแบบเพื่อนำผลิตภัณฑ์สู่ตลาด (Design to Market Strategy)

  “เวรี่ย์” ออกแบบมาให้ทุกๆ คนสามารถเลือกสี, มือจับและขนาดของก๊อกน้ำได้ และสามารถถอดประกอบเองได้ง่ายๆ เป็นก๊อกที่สามารถใช้งานได้ทั้งในห้องน้ำและห้องครัว เพราะก๊อก “เวรี่ย์” นั้นมีขนาดความสูงที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน

ส่งเสริมรูปแบบการใช้ชีวิต (Enhancing Living Lifestyle)

  ด้วยการที่ “เวรี่ย์” สามารถให้ผู้ใช้งานเป็นคนเลือกส่วนประกอบต่างๆเองนั้น เป็นการส่งเสริมให้ทุกๆคนมีความคิดสร้างสรรค์ในการเลือกก๊อกน้ำที่ตัวเองชอบ และเข้ากับบ้านแล้ว ยังเป็นการสร้างกิจกรรมในครอบครัวอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นเลือกสี เลือกขนาด การประกอบ ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้ทุกคนในครอบครัว

แนวคิดที่นำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างคุณค่า (Cultural Heritage Values)

  โดย “เวรี่ย์” เป็นก๊อกที่ออกแบบโดยคำนึงถึง “Universal Design” เป็นหลัก ทุกๆ คนสามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้สูงอายุ เพราะอย่าลืมว่าในๆ สังคมของเรามีหลากหลายกลุ่มคนที่อยู่ร่วมกัน ก๊อก “เวรี่ย์” สามารถเปิดใช้งานได้2รูปแบบ คือการหมุนเปิด-ปิดน้ำที่บริเวณก้านโยก และการกดปุ่มเปิด-ปิดน้ำที่บริเวณปากก๊อก การเพิ่มปุ่มเปิด-ปิดน้ำมานั้น ก็เพื่อทุกคนสามารถใช้งานได้ บางคนอาจจะมือไม่ว่างหรือไม่สะดวกด้วยเหตุต่างๆ ทำให้ไม่สามารถใช้ก้านโยกทั่วไปได้ก็สามารถกดปุ่มเปิด-ปิดได้ด้วย ข้อศอก หรือหลังนิ้วได้ เด็กๆเองก็เช่นกัน การกดนั้นเด็กสามารถใช้งานได้ง่ายและสนุกไปกับการกด และผู้ปกครองสามารถสอนการใช้ในเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการรู้จักการประหยัดพลังงานให้แก่เด็กๆได้ รวมผู้สูงอายุเองก็เช่นกัน “เวรี่ย์นั้นคือก๊อกที่ถูกออกแบบให้สอดประสานระหว่างความสวยงามและการใช้งานอย่าลงตัว”

ออกแบบเพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ใช้ได้หลากหลาย (Universal Design)

  “เวรี่ย์” ถูกออกแบบโดยคำนึงถึง “Universal Design” เป็นหลัก ทุกๆคนสามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานได้ การเพิ่มการปุ่มเปิด-ปิดน้ำมานั้น ก็เพื่อคำนึงถึงทุกๆคน เด็กๆสามารถใช้งานได้ง่ายและสนุกไปกับการกด และผู้ปกครองสามารถสอนการใช้ในเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการรู้จักการประหยัดพลังงานให้แก่เด็กๆได้ รวมผู้สูงอายุเองด้วย

Picture2 1 -
Vaelge2 -
Vaelge5 -
Vaelge6 1 -
Vaelge7 2 -
Vaelge4 -
Vaelge3 -

เปิดประสบการณ์ใหม่ของการอาบน้ำ “Kudos Tubu”

P.1 3 -
P.1 2 -

ฝักบัวกรองคลอรีน “ดีไซน์” สวย รางวัล Japan Good Design Award 2022 และ iF Design Award 2023

“คูโดสเปิดตัวฝักบัวซีรีส์ใหม่ KUDOS TUBU…เติมเต็มความสุขในการอาบน้ำ…มาพร้อมกับเทคโนโลยี Water-Pure FilterTM ช่วยกรองคลอรีน และเทคโนโลยี AtomistTM ช่วยเพิ่มความแรงของน้ำ…ดีไซน์สวยงาม การันตีด้วยรางวัล Japan Good Design Award 2022”


นิยามการออกแบบผลิตภัณฑ์ของคูโดส

คุณบูม-พรลภัทร ยงยิ่งศักดิ์ Product Designer เล่าว่า “คูโดสให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพสินค้า และฟังก์ชันการใช้งาน เรามีเป้าหมายในการส่งมอบนวัตกรรมใหม่ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ และวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยทั้งหมดมาจากการที่เราต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต และมาตรฐานความเป็นอยู่ของคนให้ดีขึ้น

ผมมองว่าทุกวันนี้ในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เวลาที่จะหาความสุนทรียภาพ หรือการพักผ่อนทำได้ยากขึ้น แบรนด์คูโดสเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เรามองเห็นว่าการอาบน้ำเป็นการช่วยสร้างสุนทรียภาพอย่างหนึ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลายในการใช้ชีวิตประจำวันได้ เราจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพของน้ำให้มีคุณภาพที่ดีด้วย เพื่อสร้างประสบการณ์และความสุขในการอาบน้ำให้มากกว่าเดิม”

แรงบันดาลใจของ Kudos TUBU

 “การคิดสินค้าชิ้นหนึ่ง เกิดจากเราเห็นปัญหาหรือตั้งโจทย์ก่อน ส่วนเรื่องดีไซน์และความสวยงามก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ปัจจุบันคนให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น ใส่ใจเรื่องความสะอาด ความปลอดภัยต่อร่างกาย รวมถึงเราพบว่าคนในประเทศไทยและคนทั่วโลกจะมีผู้ที่แพ้คลอรีน ซึ่งส่งผลต่อผิว อาจจะทำให้เกิดภูมิแพ้ ผดผื่น หรือผิวแห้งกร้าน

เราเลยนำปัญหานี้มาเป็นโจทย์พัฒนาเป็นสินค้าที่มีชื่อว่า Kudos TUBU โดยได้ร่วมมือกับดีไซเนอร์ไทยที่มีผลงานระดับโลก ออกแบบคอนเซ็ปต์โดยนำความเป็นไทยมาเป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์รูปลักษณ์อย่างเป็นเอกลักษณ์ พร้อมผสมผสานในเรื่องนวัตกรรมลงใป ให้ตอบโจทย์ความต้องการทั้งทางด้าน Physical, Functional และ Emotional ที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุด ใส่ใจในทุกรายละเอียดในการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่ององศาของรูฝักบัวที่เรียว เพื่อให้น้ำพุ่งแรง  แต่นุ่มชุ่มฉ่ำ ด้วยเทคโนโลยี AtomistTM การออกแบบให้สามารถจับถือได้สะดวกและง่ายขึ้น ด้วยน้ำหนักที่เบา ที่แม้แต่ผู้สูงอายุก็จับได้ถนัดมือ บวกกับดีไซน์ที่สามารถเข้ากับห้องน้ำได้หลากหลายสไตล์ และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ เรื่องของการตอบโจทย์การกรองคลอรีนด้วยเทคโนโลยี Water-Pure FilterTM จึงทำให้ Kudos TUBU กลายเป็นฝักบัวนวัตกรรมใหม่ ที่เข้ามาเติมเต็มฟีลลิ่งการอาบน้ำให้ดียิ่งกว่าเดิม เติมเต็มความสุขในการอาบน้ำได้อย่างแท้จริง”


p.2 3 -

ได้รับรางวัล Good Design Award 2022

“ล่าสุด Kudos TUBU ได้รับการการันตีความยอดเยี่ยมด้านงานดีไซน์ ด้วยรางวัล Japan Good Design Award 2022 จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยรูปลักษณ์หน้าตาที่มีการนำความเป็นไทยมาเล่น กับฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน และราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นโปรดักส์แบรนด์คูโดสชิ้นแรกที่ได้รับรางวัลระดับโลก เป็นรางวัลที่ทีมงานทุกคนภูมิใจ และเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับคูโดสที่มุ่งมั่นจะพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องให้ตอบโจทย์ความต้องการยิ่งขึ้นต่อไป ”

s -
p.3 1 -

พูดถึงแบรนด์ KUDOS  

คุณเอ็ม-ปัฐวิกรณ์ จำปาหอม Associate Director กล่าวว่า “KUDOS (คูโดส) เป็นแบรนด์คนไทยที่จำหน่ายสินค้าด้านอุปกรณ์ในห้องน้ำและห้องครัวแบบครบวงจร บริหารโดยบริษัท ซี.ไอ.ที. จำกัด ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2554 นับถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 10 ปีที่คูโดสได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และยอดขาย ภายใต้นโยบายที่มุ่งมั่นคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพอันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ โดดเด่นด้วยดีไซน์ และนวัตกรรมล้ำสมัยจากทุกแห่งทั่วโลก มานำเสนอให้กับผู้บริโภค เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และต้องยกระดับความเป็นอยู่ของคนและสังคมให้ดีขึ้นด้วย”

มุมมองตลาด และเป้าหมายในอนาคต

“ถ้าพูดถึงเทรนด์ความต้องการของตลาดในปัจจุบัน คือ Mega Trend ซึ่งมี 3 เรื่องที่สำคัญที่เราโฟกัส อย่างแรก คือ Aging Society สังคมไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นสินค้าใหม่ที่จะออกสู่ตลาดต้องออกแบบโดยคำนึงถึงเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ต่อมาคือเรื่อง Innovation คำนึงถึง Smart Living เราต้องพัฒนาสินค้าให้ทันโลกและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตอบสนองในยุคดิจิตอลในปัจจุบัน และอีกเรื่องคือ เรื่อง Environment หรือสิ่งแวดล้อม ที่เรายึดถือให้คูโดสเป็นแบรนด์ที่รับผิดชอบต่อสังคม ให้พนักงานทุกคนคำนึงถึง และใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้โลกน่าอยู่ขึ้น นี่คือเป้าหมายที่คูโดสต้องพยายามตอบโจทย์ความต้องการของตลาดตรงนี้ให้ได้” คุณเอ็มกล่าว

คาดหวังกับ KUDOS TUBU อย่างไร

“สำหรับ Kudos TUBU เราทำโปรดักส์นี้ขึ้นมาจากโจทย์ที่ว่า เราอยากให้ Kudos TUBU เป็นฝักบัวที่แตกต่างจากฝักบัวทั่วไป เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภค เพื่อเปิดมุมมอง และสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่จากการอาบน้ำ ให้การอาบน้ำเป็นมากกว่าการชำระร่างกาย แต่กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความสุนทรีย์ที่ทุกคนสามารถหาได้ในทุกๆ วัน ด้วยคุณภาพของน้ำที่ดีกว่า ความแรงและความนุ่มนวลของน้ำที่ช่วยผ่อนคลาย ช่วยถนอมผิว ตอบโจทย์ดีทั้งสองอย่างคือ ดีต่อสุขภาพกาย และดีต่อสุขภาพใจ” คุณเอ็มกล่าว

ทั้งนี้ Kudos TUBU และสินค้าของคูโดส มีวางจำหน่ายแล้ว ผ่านช่องทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าโมเดิร์นเทรดอย่าง โฮมโปร, บุญถาวร, ร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ ทั้ง Lazada, Shopee, Line Official, Facebook และ Website www.kudos.co.th

ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ของการอาบน้ำ ด้วย Kudos TUBU ฝักบัวกรองคลอรีนที่ไม่ได้ตอบโจทย์แค่เรื่องฟังก์ชันพื้นฐานของการอาบน้ำ แต่ยังสามารถช่วยตอบโจทย์เรื่องสุขภาพ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ยกระดับความเป็นอยู่ รวมถึงมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและสร้างความสุขได้ ถือว่าสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างแท้จริง

P.4 1 -

โถสุขภัณฑ์ ส่วนสำคัญที่ต้องเลือกให้ดี!

โถสุขภัณฑ์ ส่วนสำคัญที่ต้องเลือกให้ดี!

ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า ‘ห้องน้ำ’ เปรียบเสมือนอาณาจักรเล็ก ๆ ที่หลายคนหยิบยกให้เป็นหนึ่งส่วนสำคัญของบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะต้องถูกสุขอนามัย หรือดีไซน์จะต้องถูกใจแค่ไหน ห้องน้ำก็ต้องสามารถรองรับการใช้งานที่พอเหมาะพอดี และมีพื้นที่รองรับช่วงเวลาผ่อนคลาย หรือแม้ในยามปลดทุกข์ เมื่อมีห้องน้ำ ก็ต้องมีองค์ประกอบคู่ใจอย่าง ‘โถสุขภัณฑ์’ หรือที่เราหลายคนรู้จักกันดีในชื่อ ‘โถส้วม’ หรือ ‘ชักโครก’ ที่แทบจะเป็นส่วนที่คนเรามักพิถีพิถันในการเลือกเป็นสิ่งแรก ๆ เมื่อจะสร้าง หรือรีโนเวทห้องน้ำ

เดิมทีคนไทยเราอาจคุ้นเคยเป็นอย่างดีในลักษณะโถนั่งยองที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน จนปัจจุบันก็ได้ขยับขยายมาใช้รูปแบบโถส้วม หรือ ชักโครกกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านสร้างใหม่ หรือบ้านรีโนเวท ก็มักเลือกใช้โถสุขภัณฑ์แบบโมเดิร์นให้มามีบทบาทต่อบ้านให้ทันยุคสมัย ด้วยเหตุผลที่ดีกว่าในหลายประการ ทั้งสะดวกกว่า ถูกสุขอนามัย สะอาดปลอดภัย และเติมแต่งห้องน้ำให้ดูน่าใช้งาน เพราะบทบาทของโถสุขภัณฑ์สำคัญขนาดนี้ เราจึงจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับสาระดี ๆ ของโถสุขภัณฑ์ให้ใกล้ชิดมากขึ้นกว่าเดิม

โถสุขภัณฑ์สมัยใหม่ มีกี่ประเภท ?

โถสุขภัณฑ์ หรือ ชักโครก ในปัจจุบันมีการจัดประเภทหลัก ๆ อยู่ด้วยกัน 2 กลุ่มใหญ่

1. โถสุขภัณฑ์ ตามการติดตั้ง ได้แก่ แบบตั้งพื้น และ แบบแขวนผนัง (ลอยตัว)

1.1 แบบตั้งพื้น

โถสุขภัณฑ์แบบตั้งพื้น หรือ วางพื้น เป็นโถชักโครกที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และมักพบได้ตามบ้าน หรือคอนโดสมัยนี้ มีลักษณะเป็นแบบติดตั้งลงไปบนพื้นห้องน้ำโดยตรง ให้ความแข็งแรง คงทน เน้นการใช้งานที่ง่าย และสะดวกสบาย รับน้ำหนักได้ดี ที่สำคัญ ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกตามมา ระบบการฟลัชน้ำก็มีให้เลือกหลากหลายด้วยเช่นกัน

ข้อดี : เป็นที่นิยมใช้ หาง่ายตามท้องตลาด รูปแบบให้เลือกจึงหลากหลายตามไปด้วย ราคาดี มีตั้งแต่ราคาสูงขึ้นอยู่กับดีไซน์และระบบฟลัชชำระล้าง  ในส่วนของการติดตั้งก็ง่ายไม่ยากเย็น การซ่อมก็สามารถซ่อมแยกส่วนได้ ไม่ค่อยเป็นปัญหา

ข้อเสีย : การทำความสะอาดส่วนฐานของสุขภัณฑ์ที่อยู่ติดผนังกำแพงจะยุ่งยากสักหน่อย เนื่องจากอยู่ลึกกว่ามือหรือแขนของเราเอื้อมเข้าไปถึง

1.2 แบบแขวนผนัง (ลอยตัว)

อีกหนึ่งประเภทโถสุขภัณฑ์แบบใหม่ ที่มีลักษณะเป็นโถชิ้นเดียวที่มีการติดตั้งแบบฝังเข้ากับผนัง และลอยตัวเหนือพื้นขึ้นมา ดูสะอาดตาและเรียบหรู เพิ่มสไตล์ความเป็นโมเดิร์นให้กับห้องน้ำได้ดี การติดตั้งจะมีความแตกต่างกับแบบตั้งพื้นอยู่ไม่น้อย เนื่องจากการติดตั้งแบบลอยตัว ต้องอาศัยการเตรียมพื้นที่ส่วนผนังให้มีความแข็งแรงระดับหนึ่ง เพื่อรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานให้ได้ดีที่สุด

ข้อดี : รูปแบบใหม่ สไตล์เรียบหรู ดูน้อยแต่มาก ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นปัญหาคราบฝังแน่นตามพื้นรอบโถ

ข้อเสีย : การติดตั้งยุ่งยากกว่า มีระบบฟลัชน้ำแค่แบบเดียว ( แบบ Wash Down ) หาซื้อยากกว่าแบบตั้งพื้น ตัวเลือกก็จะน้อยลง และมีราคาที่สูงขึ้นมาอีกระดับ รวมถึงระบบท่อระบายน้ำทิ้งต่าง ๆ ด้วย

2. โถสุขภัณฑ์ ตามชนิดของโถ ได้แก่ แบบชิ้นเดียว และ แบบแยกชิ้น

2.1 แบบชิ้นเดียว

โถสุขภัณฑ์ชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นโถชิ้นเดียว ตัวชักโครกจะติดกันกับถังพักน้ำ ไม่มีร่องหรือรอยต่อ จึงมีดีไซน์ที่เรียบสวย และมีความเป็นโมเดิร์นเข้ากับการตกแต่งสมัยใหม่ ผสมผสานกับดีไซน์อื่น ๆ ของห้องน้ำได้ดี เป็นโถสุขภัณฑ์อีกแบบที่ใช้งานก็สะดวก ทำความสะอาดก็ง่าย

ข้อดี : รูปแบบสวยงาม ใช้งานง่าย และดี ไม่มีรอยต่อ น้ำไม่รั่วซึม ระบบการฟลัชน้ำเงียบกว่า

ข้อเสีย : ติดตั้งง่าย ราคาจะสูงกว่าแบบแยกชิ้น หากชำรุดเสียหาย ต้องซื้อเปลี่ยนใหม่ยกเซ็ต

2.2 แบบแยกชิ้น

โถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น หรือ แบบสองชิ้น จะมีลักษณะเป็นโถชักโครกที่แยกกันกับถังพักน้ำ เป็นชนิดที่มักพบเห็นโดยทั่วไป และส่วนมากจะเป็นโถชักโครกแบบตั้งพื้นเสียส่วนใหญ่ หาซื้อง่าย แต่อาจมีขั้นตอนการติดตั้งที่ซับซ้อนกว่าแบบชิ้นเดียว

ข้อดี : หากชำรุดเสียหาย สามารถซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนเฉพาะจุดได้ หาซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนแยกได้ หาซื้อไม่ยาก ตัวเลือกเยอะ

ข้อเสีย : เนื่องจากเป็นชิ้นแยก และมีรอยต่อ อาจมีปัญหาน้ำรั่วซึมระหว่างรอยต่อของตัวโถกับแท้งค์น้ำในภายหลังได้ การติดตั้งจะซับซ้อนกว่าแบบชิ้นเดียว และอาจมีสิ่งสกปรกเกาะตามรอยต่อระหว่างตัวโถกับแท้งค์น้ำ ค่อนข้างทำความสะอาดได้ยาก หากไม่รักษาความสะอาดให้ดี

ระบบการชำระล้าง โถสุขภัณฑ์ ส่วนสำคัญที่ต้องเลือกให้ดี!

ระบบการชำระล้างของโถสุขภัณฑ์ในปัจจุบัน

ระบบการชำระล้าง หรือ รูปแบบการฟลัชน้ำ ประเด็นที่ควรรู้อีกหนึ่งอย่าง นอกเหนือประเภทโถสุขภัณฑ์ทั้ง 4 แบบด้านบนแล้ว วิธีการชำระล้างของโถแต่ละรูปแบบก็ยังแตกต่างกัน เพราะนั่นจะส่งผลไปถึงฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ของผู้พักอาศัยอีกด้วย

  • Siphon Vortex

ระบบ Siphon Vortex มักพบได้ในโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบการชำระล้างที่ดีที่สุด และทรงประสิทธิภาพ  แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้น้ำที่ค่อนข้างเยอะสักหน่อย ประมาณ 6 – 9 ลิตรต่อครั้งการกด โถสุขภัณฑ์ที่มาพร้อมระบบ Siphon Vortex จะมีอุปกรณ์ภายในที่ทนทาน ใช้หลักการแบบน้ำวน มีเสียงที่เงียบกว่าระบบอื่น

  • Siphon – Jet

ระบบ Siphon Jet ปัจจุบันเป็นระที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว ให้การชำระล้างที่สะดวก รวดเร็ว และกระแสน้ำจะค่อนข้างแรง การกดต่อครั้ง จะใช้น้ำประมาณ 4.5 ลิตร และ 6 ลิตร ถือว่าใช้น้ำไม่น้อยไปไม่เยอะไป ระบบนี้จะเป็นการปล่อยน้ำลงบวกกับรู Jet ด้านหน้าที่จะปล่อยน้ำออกมาเวลากดชำระ จึงทำให้มีความเร็ว แรง และสะอาด เสียงเงียบกว่า Siphonic Wash – Down

  • Siphonic Wash – Down

เป็นรูปแบบที่คล้ายกับระบบ Wash Down แต่คอห่านจะมีลักษณะกว้างกว่า และเป็นแบบโค้งกลับ ทำให้ระบบการชำระล้างจะทำงานแบบกาลักน้ำ มีประสิทธิภาพช่วยดูดสิ่งปฏิกูลได้ดีกว่าแบบ Wash Down  ที่สำคัญ ระดับเสียงเวลาชำระก็จะค่อนข้างเงียบกว่า แบบ Wash Down ใช้ปริมาณน้ำต่อครั้งประมาณ 3.8 – 6 ลิตร

  • Wash Down

ระบบ Wash Down เป็นรูปแบบที่เราพบเห็นมากที่สุดและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ส่วนใหญ่จะใช้กับสุขภัณ์ที่มีราคาถูก เป็นลักษณะการใช้น้ำใหม่ทดแทนน้ำเก่าเพื่อชะล้างสิ่งปฏิกูลให้ออกไป ง่าย สะดวก และใช้น้ำปริมาณไม่เยอะ โดยโถสุขภัณฑ์ที่มาพร้อมระบบ Wash Down ส่วนใหญ่จะเป็นฟลัชแบบระบบเดี่ยว  (Single Flush) ที่จะปล่อยน้ำน้อย ประมาณ 3 ลิตรต่อครั้ง และแบบสองปุ่ม (Duo Flush) ที่จะปล่อยน้ำมากกว่าในอัตรา 4 – 6 ลิตร ซึ่งรูปแบบนี้จะสามารถรองรับการชำระล้างทั้งธุระหนัก และเบาบางรุ่นอาจเป็นระบบฟลัชคู่ Dual flush คือมีสองปุ่มกดให้เลือกใช้งานได้ทั้งถ่ายหนักกับเบา เสียงฟลัชค่อนข้างดัง

โถสุขภัณฑ์ ส่วนสำคัญที่ต้องเลือกให้ดี

โถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ นวัตกรรมใหม่ สะดวกสบาย – อัจฉริยะ!

โถสุขภัณฑ์ หรือ ชักโครกในแบบเดิม ๆ ที่เรารู้จักมักใช้ระบบ Mannual แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับยุคสมัยนี้ ยังมีนวัตกรรม สุขภัณฑ์อัตโนมัติ ที่มากับระบบอัตโนมัติ (Automatic Toilets) ทั้งทันสมัย และตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้ดี เพราะระบบอัตโนมัตินี้ จะเป็นการทำงานด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมด รองรับการชำระล้างหลายรูปแบบไม่ว่าจะธุระหนัก หรือเบา ในบางรุ่นยังมีระบบอัจฉริยะที่สามารถคำนวณการฟลัชน้ำให้เราอีกด้วย หรือจะเป่าลมให้แห้งก็พร้อมสรรพ ยังไม่นับรวมกับระบบชำระล้างในตัวแบบไม่ต้องลากสายมาฉีด แค่กดปุ่มฟังก์ชันนิด ก็สามารถล้างสิ่งปฏิกูลได้แบบง่ายดาย ไม่เพียงเท่านั้น ในหลายรุ่นยังมีระบบฝารองโถแบบปรับอุณหภูมิอุ่น เพิ่มประสบการณ์ความสบายให้การเข้าห้องน้ำดีกว่าที่เคย ไม่ต้องรู้สึกเย็นวาบเวลานั่งอีกต่อไป เรียกได้ว่า อำนวยความสบายกันแบบสุด ๆ

ปกติแล้วโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ จะมีด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่

โถที่มีระบบอัตโนมัติในตัว : รูปแบบนี้ คือชักโครกที่มีการฝังระบบอัตโนมัติในตัวอยู่แล้ว เป็นลักษณะมาพร้อมโถใหม่เอี่ยมบวกกับฟังก์ชันอัจฉริยะโดยไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่ม เหมาะสำหรับใครที่สร้างบ้านใหม่ หรือ รีโนเวทห้องน้ำให้มีความโมเดิร์นขึ้นกว่าเดิม

ฝารองนั่งระบบอัตโนมัติ : รูปแบบนี้ จะเป็นเพียงฝารองนั่งที่มาพร้อมระบบอัตโนมัติ ไม่ได้เป็นลักษณะมาพร้อมโถ และจะมาในรูปแบบอุปกรณ์เสริมเพื่อไปติดตั้งกับโถสุขภัณฑ์เดิมอีกทีหนึ่ง เหมาะสำหรับคนที่อยากอัปเกรดชักโครกเดิมให้เป็นระบบอัตโนมัติ แต่ก็ยังไม่เหมือนซะทีเดียว เพราะระบบการฟลัชน้ำ ยังคงต้องกดแบบแมนนวลอยู่เหมือนเดิม

ข้อดี : ฟังก์ชันครบ อำนวยความสะดวกมาก ทันสมัย เปิดประสบการณ์ใหม่ในการเข้าห้องน้ำอย่างมีความสุข

ข้อเสีย : ราคาโถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติมักมีราคาแพง ส่วนมากจะเริ่มตั้งแต่ ประมาณ 20,000 – 100,000 บาท

และถึงแม้ว่า ราคาค่าเสียหายของชักโครกอัจฉริยะจะแสนแพงเมื่อเทียบกับชักโครกปกติทั่วไป แต่หากมองในแง่มุมประโยชน์ใช้สอยก็ถือว่าคุ้มค่า สมราคาจริง ๆ ราวกับว่าการลงทุนกับโถสุขภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมสักโถ ก็เปรียบกับการซื้อเวลาแห่งความสุขเล็ก ๆ เอาไว้ที่บ้านอย่างไรอย่างนั้นเลย

4 ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อ ‘โถสุขภัณฑ์’ ในแบบที่ใช่และเหมาะกับการใช้งานที่สุด!

 4 ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อ ‘โถสุขภัณฑ์’ ในแบบที่ใช่และเหมาะกับการใช้งานที่สุด!

1. ขนาดและความสูงให้พอดี

โถสุขภัณฑ์โดยทั่วไปจะมีขนาดให้เลือกอยู่ 4 ขนาด S M L XL แต่ละขนาดจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดที่ระดับความสูงของฝารองนั่ง ซึ่งขนาดที่เรามักคุ้นชิน และนิยมใช้จะเป็นไซซ์ M มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 40 เซนติเมตร เทียบเท่ากับความสูงของเก้าอี้นั่งในชีวิตประจำวัน

2. ระบบชำระล้างที่ตอบโจทย์

ระบบชำระล้าง เป็นอีกประเด็นสำคัญที่ควรใส่ใจในการเลือกซื้อโถสุขภัณฑ์ ไม่ว่าจะแบบ Wash Down หรือ Siphon ก็จะส่งผลต่อปริมาณการใช้น้ำทั้งสิ้น ไหนจะเรื่องประสิทธิภาพการชะล้างที่ต่างกันพอสมควร หากใครเน้นการใช้งานที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว และคุณภาพดีที่สุด ระบบ Siphon ทั้ง 2 แบบก็อาจตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่า แต่หากใครเน้นการใช้น้ำน้อย สายประหยัด แต่ก็ยังคงมีประสิทธิภาพดี ระบบ Wash Down อีก 2 แบบก็อาจเป็นตัวเลือกที่ใช่

3. รูปแบบที่ใช่

รูปแบบของโถสุขภัณฑ์ไม่ว่าจะ แบบตั้งพื้น หรือ ติดผนัง ทั้ง 2 ชนิดก็ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป แบบตั้งพื้นก็จะสะดวกสบาย หาซื้อง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่หากเป็นแบบติดผนัง อาจต้องใช้กำลังทรัพย์ที่สูงขึ้นมาอีกสักนิด แต่ก็ได้ความสวยหรูดูแพง และความสะอาดสะอ้านแบบโมเดิร์น หรือจะแบบชิ้นเดียว – แบบแยกชิ้น ทั้ง 2 ชนิดนี้ก็ให้ประโยชน์ใช้สอยที่แตกต่างกันไปเช่นกัน

4. รูปทรงที่ชอบ

รูปทรงของโถสุขภัณฑ์มักมีด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่ วงกลม และวงรี ซึ่งตามปกติทั่วไปเรามักเคยชินกับวงรีเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากความเพรียวยาว และการรองรับสรีระได้เต็มประสิทธิภาพ แต่รูปทรงแบบวงกลมก็จะตอบโจทย์สำหรับคนที่มีพื้นที่ใช้สอยในห้องน้ำน้อยและจำกัด

ข้อมูลเด็ด เคล็ดลับดี ๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ตั้งแต่ประเภทโถสุขภัณฑ์ไปจนถึงฟังก์ชันที่ต้องคำนึงถึง จะเข้ามาเป็นตัวช่วยชั้นดีที่ให้เหล่านักรังสรรค์บ้านมือใหม่ และมืออาชีพ สามารถเลือกซื้อสุขภัณฑ์ได้ตรงแบบที่ใจต้องการ  และที่สำคัญ นอกจากจะได้รูปแบบที่ถูกใจ ก็ยังจะได้โถสุขภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ตรงกับการใช้งานที่สุด เพราะเราเข้าใจดีว่า ห้วงเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่เราเข้าใช้งานโถสุขภัณฑ์ นั่นคือช่วงแห่งความสุขเล็ก ๆ ที่ไม่อาจมองข้ามไปได้!

KUDOS UHOO X รถดมไว

Kudos Uhoo DOM VVI

KUDOS ร่วมสนับสนุน “รถดมไว”

การใช้สุนัขดมกลิ่นคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย uHoo สุดยอดนวัตกรรมเครื่องวัดอากาศแบบเรียลไทม์

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ทาง KUDOS (คูโดส) ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพิธีเปิดโครงการ “การใช้สุนัขดมกลิ่นคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” โดยใช้ “รถดมไว” หรือ Dog Olfactory Mobile Vehicle for Viral Inspection (DOM VVI)  โดยเป็นสุดยอดผลงานล่าสุดที่จับมือร่วมกันระหว่างคณะสัตวแพทยศาสตร์, คณะแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์ ร่วมกับการออกแบบห้องปฏิบัติงานเคลื่อนที่ ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“รถดมไว” เป็นห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยเคลื่อนที่สำหรับการปฏิบัติงานของสุนัขดมกลิ่น ในการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ โดยหลักการการทำงานของของสุนัขดมกลิ่น คือการเริ่มจากการนำแท่งสำลีไปเก็บตัวอย่างเหงื่อที่บริเวณรักแร้ของผู้ที่เข้ารับการตรวจคัดกรองแล้วนำมาบรรจุใส่ในภาชนะที่มีการจัดเตรียมไว้โดยเฉพาะ เพื่อให้สุนัขดมกลิ่นเพื่อตรวจหาเชื้อ เนื่องจากผู้ป่วยโควิด-19 จะมีกระบวนการเผาผลาญในร่างกายที่แตกต่างออกไป ทำให้มีสารเคมีจากต่อมเหงื่อเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งกลิ่นดังกล่าวจะสามารถถูกตรวจจับโดยสุนัขได้ กล่าวโดยสรุป คือ สุนัขสามารถระบุได้ว่าผู้ใดป่วยโควิด-19 จากการจำแนกกลิ่นนั่นเอง

Kudos Uhoo DOM VVI

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทางโครงการให้ความใส่ใจสูงสุด คือเรื่องของความปลอดภัยและการลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อของสุนัขและเจ้าหน้าที่ รวมถึงประสิทธิภาพความแม่นยำสูงสุดในการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ด้วยการออกแบบห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ โดยมีตัวช่วยในการตรวจสอบคุณภาพอากาศในห้องปฏิบัติการได้แบบ Real Time ทำให้ทราบว่าอากาศในห้องปฏิบัติการมีความปลอดภัยและพร้อมปฏิบัติหน้าที่แค่ไหน ด้วย uHoo สุดยอดนวัตกรรมเครื่องวัดอากาศ ที่สามารถช่วยวัดค่าสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศ ซึ่งสาร VOCs นี้อาจส่งผลให้การทำงานของสุนัขมีประสิทธิภาพลดลง หากคุณภาพอากาศภายในห้องปฏิบัติการไม่เหมาะสม โดย uHoo จะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อเตือนให้มีการปรับปรุงคุณภาพอากาศให้เหมาะสมก่อนการเริ่มปฏิบัติหน้าที่ของสุนัขและเจ้าหน้าที่ และรักษาคุณภาพอากาศไว้ตามมาตรฐานตลอดการปฏิบัติการเพื่อให้เกิดความแม่นยำสูงสุด

Kudos Uhoo DOM VVI

uHoo นับเป็นเทคโนโลยีที่สามารถวัดค่าอากาศได้มากที่สุดในโลกถึง 9 ค่า ได้แก่ การวัดอุณหภูมิ, ความชื้น, ฝุ่น PM2.5, คาร์บอนไดออกไซด์, คาร์บอนมอนอกไซด์, สารอินทรีย์ระเหย (VOCs), ไนโตรเจนไดออกไซด์, โอโซน และความดันอากาศ และยังรองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอย่าง Google Assistant และ Amazon Alexa เพื่อปรับสภาพอากาศรอบตัวให้เหมาะสมและดีต่อสุขภาพอยู่เสมอ

Kudos Uhoo DOM VVI

นอกจากนี้ภายในห้องปฏิบัติงานเคลื่อนที่ยังมีการถูกออกแบบให้มีระบบความปลอดภัยอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การสร้างระบบความดันลบในห้องเตรียมตัวอย่าง, มีระบบฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV, ยาปฐมพยาบาล, ถังดับเพลิง, ไฟขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน และไฟแจ้งเตือนขณะปฏิบัติงาน เป็นต้น

Kudos Uhoo DOM VVI

สุดท้ายนี้ทาง KUDOS (คูโดส) ขอขอบคุณทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ให้ uHoo ได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นตัวช่วยดีๆ ของโครงการ “รถดมไว” รถปฏิบัติงานชีวนิรภัยเคลื่อนที่ของสุนัขดมกลิ่นคันแรกของประเทศไทย ที่จะเข้ามาช่วยลดงานเจ้าหน้าที่ ประหยัดทรัพยากร รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุก

Shop now View more

สัมมนา “คนเจ้าปัญหา (The Trouble Maker)”

Design Thinking Theory Seminar

สัมมนา “คนเจ้าปัญหา (The Trouble Maker)”

เพราะปัญหาต่างๆ นั้นอยู่รอบตัว เพียงแต่เราอาจไม่ทันรับรู้ว่ามันเป็นปัญหา จนกว่าจะเกิดปัญหาขึ้นจริง

คูโดส ในฐานะแบรนด์ชั้นนำด้านอุปกรณ์ห้องน้ำและห้องครัวที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ปัญหาและสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้สินค้า จึงได้จัดงานสัมมนาเรื่อง “คนเจ้าปัญหา (The Trouble Maker)” ขึ้น เพื่อให้พนักงานของบริษัท ซี.ไอ.ที. จำกัด ได้เข้าใจถึงหลักการด้านการออกแบบตามทฤษฎี Design Thinking) ผ่านมุมมองและการแบ่งปันประสบการณ์จากนักออกแบบอย่าง “คุณภัทราวุธ จันทรังสี หรือ คุณเต็นท์” นักออกแบบรุ่นใหม่จาก “ตื่น ดีไซน์สตูดิโอ” ผู้อยู่เบื้องหลังการปลุกตำนาน “ร้านเกี๊ยวหนองบัว” และผู้สร้างนิยามใหม่ของพื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ได้สเปซที่ “ทำงานก็ดี นอนหลับก็ได้” อย่าง NAP LAB

สิ่งที่คุณเต็นท์ชี้ให้เห็นตลอดการสัมมนานั้น ไม่ใช่แค่เพียงวิธีการออกแบบอย่างไรให้สวยและตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งาน แต่เป็นการมุ่งความสนใจไปสู่ประเด็นที่ลึกซึ้งมากกว่า ผ่านการวิจัยและทำความเข้าใจในบริบทแวดล้อมในทุกมิติเท่าที่จะเป็นไปได้ และเข้าถึงผู้ใช้งานให้มากที่สุด เพื่อสร้างงานออกแบบที่มีความหมาย ทรงคุณค่าและสร้างความสุขต่อผู้ใช้งาน ซึ่งนั่นถือว่าเป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้กับพนักงาน ซี.ไอ.ที. ทุกคนให้เข้าใจถึงความสำคัญของการออกแบบสินค้าอย่างไรจึงจะสามารถสร้างความสุขให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง

CUSTOMER EXPERIENCE MANAGEMENT WORKSHOP

Customer Experience Management Workshop 03

การบริการด้วยใจ
Customer Experience Management Workshop

ในโลกแห่งการแข่งขันทางธุรกิจ ทุกแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์และกลวิธีต่างๆ มาใช้ เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบและส่วนแบ่งทางการตลาด อีกทั้งยังทุ่มเทความรู้ความสามารถ และกำลังทรัพย์มหาศาลในการพัฒนาสินค้าให้เหนือกว่าคู่แข่ง เมื่อทุกแบรนด์ต่างนำเสนอสิ่งที่ดีของแบรนด์ตัวเองจนดูไม่ต่างกัน แล้วอะไรคือสิ่งที่จะทำให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่ง และทำให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าของเรา

คูโดส ในฐานะแบรนด์ชั้นนำด้านอุปกรณ์ห้องน้ำและห้องครัว ตระหนักถึงความท้าทายเหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต จึงได้จัดการสัมมนาในหัวข้อ “การบริการด้วยหัวใจ (Customer Experience Management Workshop)” โดยได้รับเกียรติจาก “คุณศิรส สาตราภัย” ผู้อำนวยการระดับภูมิภาค เจ.ดี. พาวเวอร์ ประจำประเทศไทย มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความสำคัญของการบริการ วิธีการสร้างการบริการที่ดี และปลูกฝังทัศนคติด้านการบริการที่ดีให้กับพนักงาน ซี.ไอ.ที. ทุกคนไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับปฏิบัติการจวบจนกระทั่งผู้บริหารของบริษัท

เพราะเราเชื่อว่าการบริการชั้นเลิศคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์คูโดสสามารถแข่งขันกับแบรนด์ชั้นนำในตลาดได้ และก่อให้เกิดฐานลูกค้าที่มีความจักรักภักดีต่อแบรนด์สินค้า (Brand Royalty) ซึ่งจะทำให้แบรนด์คูโดสเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

KUDOS X PARAFACE กิจกรรมขอบคุณลูกค้า สอนถักเชือกพาราคอร์ดแบบ EXCLUSIVE

DIY Paracord Workshop for Kudos Customers

คูโดสได้จัดกิจกรรม “D.I.Y. Paracord Workshop” เพื่อเป็นการขอขอบคุณและตอบแทนลูกค้าที่ได้ให้การสนับสนุนอย่างดีตลอดปี 2018

DIY Paracord Workshop for Kudos Customers 02

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่ KUDOS Pop-Up Store @Siam Discovey ป๊อบอัพสโตร์สุดฮิป สาขาแรกของคูโดส

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และขอบคุณลูกค้าที่ได้ให้การสนับสนุนอย่างดีเสมอมา ในครั้งนี้ทางคูโดสได้มีโอกาสจับมือร่วมกับแบรนด์ Paraface แบรนด์เครื่องประดับสัญชาติไทยสุดฮิต ที่ออกแบบด้วยการเน้นย้ำถึงคุณภาพและดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ โดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน จึงเป็นที่มาของการจับมือร่วมกันในครั้งนี้

DIY Paracord Workshop for Kudos Customers 03

โดยภายในงานลูกค้าได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมการสอนถัดเชือกพาราคอร์ดจากทีมงาน Paraface โดยการดีไซน์การถักเชือกเป็น Accessories ต่างๆ ได้แก่ กำไลข้อมือสายถัก และ พวงกุญแจสายถัก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทีมงาน Parafce ได้เปิดทริคสอนการถักเชือกพาราคอร์ดฟรี ให้กับลูกค้าคูโดสกันแบบใกล้ชิด

DIY Paracord Workshop for Kudos Customers 04

​KUDOS MIST บิวตี้ไอเทมสุดฮิต ที่เหล่านางงามเลือกใช้

Kudos Mist for Miss Supranational Thailand 2019

คูโดสสนับสนุนความสวยเป๊ะ ให้กับสาวงามผู้เข้าประกวดเวที Miss Supranational Thailand 2019 ด้วย “Kudos Mist ฝักบัวละอองหมอก” มิติใหม่แห่งการล้างหน้า โดยการเผยเคล็ดลับและเทคนิคการทำความสะอาดผิวหน้าแบบถูกวิธี ให้ไม่มีสิ่งสกปรกตกค้าง และสร้างความสมดุลให้กับผิว ก่อนลงสกินแคร์ต่างๆ

นับเป็นสเต็ปแรกของการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนการบำรุงในสเต็ปถัดไป ยิ่งในช่วงที่สาวงามต่างจำเป็นต้องแต่งหน้าหนาทุกวันและต้องเจอกับแสงไฟ มลภาวะต่างๆมากมาย จากการออกไปทำกิจกรรม

Kudos Mist นับเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เป็นตัวช่วยของเหล่านางงามในช่วงนี้ ที่ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าประกวด ให้ได้เผยผิวสวยแบบเป็นธรรมชาติได้อย่างมั่นใจ

Kudos Mist for Miss Supranational Thailand 2019 02
Kudos Mist for Miss Supranational Thailand 2019
แอนโทเนีย โพซิ้ว ผู้ชนะเลิศการประกวด Miss Supranational Thailand 2019

KUDOS ร่วมพัฒนาและส่งมอบ “SHAMPOO” รถสระผมเคลื่อนที่สำหรับผู้ป่วยติดเตียง ให้กับโรงพยาบาลกลางเนื่องในโอกาสวันครบรอบ 120 ปี

Kudos CSR Mobile Hair Washing Station

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา KUDOS ได้ส่งมอบ “น้อง Shampoo” รถสระผมเคลื่อนที่สำหรับผู้ป่วยติดเตียง (Mobile Hair Washing Station for Bed-bound Patients) ให้กับโรงพยาบาลกลางเนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนา 120 ปี โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นตัวแทนรับมอบ

ในปัจจุบันโรงพยาบาลต่างๆกำลังประสบปัญหาในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงซึ่งมีจำนวนมาก และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นในอนาคต เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์

รถสระผมเคลื่อนที่ “Shampoo” เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาความยากลำบากในการทำงานของเจ้าหน้าที่พยาบาล โดยคูโดสเชื่อว่าการสระผมให้ผู้ป่วยติดเตียงนั้น
เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ป่วยสบายกาย สบายใจ และมีรอยยิ้มแห่งความสุขได้

Kudos CSR Mobile Hair Washing Station 02

“Shampoo” ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่พยาบาลสามารถใช้มือทั้ง 2 ข้าง สระผมผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องใช้มือจับฝักบัว (Hand Free) สะดวกสบายในการเคลื่อนย้าย แก้ปัญหาเรื่องแรงดันน้ำและลดเสียงดังจากปั๊ม โดยในการเติมน้ำ 1 ครั้ง “Shampoo” จะสามารถสระผมคนไข้อย่างต่อเนื่องได้มากกว่า 4 เตียง

Kudos CSR Mobile Hair Washing Station 03

การออกแบบรถสระผมเคลื่อนที่นี้ KUDOS ร่วมกับ รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต ดร. ภัทรารัตน์ ตันนุกิจ และโรงพยาบาลกลาง คิดค้นและพัฒนาร่วมกัน ซึ่ง “คูโดส” ขอขอบคุณความไว้วางใจ ที่ทำให้เราได้ใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบแทนสังคม

Kudos CSR Mobile Hair Washing Station 04

ในปัจจุบันโรงพยาบาลต่างๆกำลังประสบปัญหาในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงซึ่งมีจำนวนมาก และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นในอนาคต เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ รถสระผมเคลื่อนที่ “Shampoo” เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาความยากลำบากในการทำงานของเจ้าหน้าที่พยาบาล โดยคูโดสเชื่อว่าการสระผมให้ผู้ป่วยติดเตียงนั้น เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ป่วยสบายกาย สบายใจ และมีรอยยิ้มแห่งความสุขได้

KUDOS SUPER SENSING ปลดล็อคเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกแห่งอนาคต!

KUDOS Super Sensing Returns BKKDW 2020

คูโดส จับมือ Super Sensing Forum เผยนวัตกรรม “Super Regenerator” ส่งตรงจากงาน CES 2020 เดินหน้ามุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยแบยั่งยืน

ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนและทุกภาคส่วน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้เองล้วนต้องใช้พลังงานในการขับเคลื่อนและนับวันยิ่งมีความต้องการสูงขึ้นตามจำนวนประชากรที่เติบโตขึ้นในทุกปี จนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากมายจากการเสาะแสวงหาแหล่งพลังงาน รวมถึงความต้องการใช้ทรัพยากรเพื่อจัดการกับปัจจัยพื้นฐานในการใช้ชีวิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับจำนวนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้ส่งผลต่อระบบนิเวศของโลกจนเกิดวิกฤติด้านทรัพยากรโลกขึ้นมากมาย อาทิเช่น ปัญหามลพิษทางอากาศ, ไฟป่า, น้ำท่วม, ภัยแล้ง ฯลฯ ซึ่งเป็นปัญหาสะสมมาอย่างยาวนาน และมีทีท่าว่าจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในทุกปี

ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการคิดค้นหาทางออกที่จะมาช่วยตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ที่มีไม่จำกัด กับเทคโนโลยี “เซ็นเซอร์” นวัตกรรมที่ผสมผสานองค์ประกอบของดีไซน์และเทคโนโลยี ทำให้เกิดพลังงานทางเลือกใหม่ที่มีความยั่งยืน หรือที่เรียกว่า “แหล่งพลังงานแห่งอนาคต”

ในครั้งนี้ คูโดส ผู้นำธุรกิจอุปกรณ์ในห้องน้ำห้องครัว และดิจิตอลล็อคคุณภาพสูง ได้ร่วมมือกับ Super Sensing Forum, Asahi Kasei บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ Sensor จากประเทศญี่ปุ่น และ CEA สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ร่วมจัดงานโชว์เทคโนโลยีล้ำสมัย “KUDOS Super Sensing Returns” ในงาน Bangkok Design Week 2020 ในรูปแบบเสวนาภายใต้หัวข้อ “REGENERATING GOOD : Making Our Planet A Better Place”

REGENERATING GOOD : Making Our Planet A Better Place
REGENERATING GOOD : Making Our Planet A Better Place

โดย มร. ซาโตชิ นาคากาว่า และผู้เชี่ยวชาญในวงการออกแบบ และสถาปัตยกรรมสมัยใหม่แถวหน้าของโลก อาทิ มร. ทัคเกอร์ ฟีมายสเตอร์, มร. อังเดร เฟลิเซียโน, มร. อิริค สคูลเดนฟราย, มิส มาริสา ยู และ มร. ฟอเรสต์ เม็กเกอร์ ร่วมกันแบ่งปันผลงานเทคโนโลยีที่ผสมผสานงานออกแบบ เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงผลกระทบของการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง สู่การนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด “Regenerative Good” ที่จะขจัดทุกข้อจำกัดของการผลิตพลังงานที่อยู่รอบตัว และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นในดิน, น้ำ, อากาศ, ขยะ หรือแม้กระทั่งในอาหารอย่าง “ขนมปัง” ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการโชว์เทคโนโลยีสุดล้ำ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “REGENERATING GOOD PROJECT – E!ROOM” ซึ่งถูกจัดแสดงมาแล้วทั้งในประเทศญี่ปุ่น และในมหกรรมงานแสดงผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ (CES2020) ลาสเวกัส

มร. ซาโตชิ นาคากาว่า ผู้ก่อตั้ง Super Sensing Forum
มร. ซาโตชิ นาคากาว่า ผู้ก่อตั้ง Super Sensing Forum

“นวัตกรรมที่นำมาจัดแสดงในงานครั้งนี้ คือเทคโนโลยี Super Regenerator ภายใต้แนวคิด Super Sensing ที่พัฒนาต่อยอดจากการสร้างกระแสไฟฟ้าระดับ Micro Energy จากแบคทีเรียในดิน จนประสบความสำเร็จในการสร้างกระแสไฟฟ้าจากธรรมชาติรอบตัวเราอย่างไร้ข้อจำกัด ไม่แม้กระทั่งจากสิ่งมีชีวิต ก็สามารถสร้างได้”

มร. ซาโตชิ นาคากาว่า ผู้ก่อตั้ง Super Sensing Forum กล่าว “ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำมาใช้สร้างแสงสว่างในยามฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติต่างๆ หรือในพื้นที่ทุรกันดารที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และสามารถประยุกต์ในการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม และลดการใช้ทรัพยกรธรรมชาติให้มากที่สุด”

KUDOS Super Sensing Returns BKKDW 2020 -

สำหรับในงานครั้งนี้ มีการจัดแสดงตัวอย่างพลังงานจากสิ่งต่างๆ รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น พลังงานไฟฟ้าจากอาหาร, พลังงานไฟฟ้าจากน้ำ และเสียงที่เกิดจากการขับเคลื่อนการทำงานของมอเตอร์ ส่งผลให้วัตถุสั่นสะเทือนจนเกิดเป็นเสียง ด้วยแผงวงจรเพิ่มแรงดันที่ช่วยให้สามารถเพิ่มพลังงานไฟฟ้าจากระดับ 1 ไมโครวัตต์ (µW) มาเป็นระดับ 4-5 โวลต์ (Volts) ซึ่งเพียงพอสำหรับนำมาใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กและเซ็นเซอร์ต่างๆ และหลังจากการทดลองอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่

KUDOS Super Sensing Returns BKKDW 2020 04

ล่าสุด “Sensorless Sensor” ขั้นกว่าของการพัฒนาเซ็นเซอร์ในปัจจุบัน ที่สามารถแสดงให้เห็นถึงแหล่งที่มาของพลังงานต่างๆ อีกด้วย เช่น แหล่งพลังงานที่ได้จากดินที่มีจุลินทรีย์จำนวนมาก ส่งผลให้การกระพริบของหลอดไฟ LED มีความถี่กว่าแหล่งพลังงานที่ได้จากดินที่มีจุลินทรีย์จำนวนน้อยกว่า เป็นต้น เพื่อสะท้อนสิ่งที่ธรรมชาติต้องการสื่อสารออกมา ซึ่งจะกลายเป็นแนวทางสำคัญที่จะทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

“เทคโนโลยี Super Sensing เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะเข้ามาขับเคลื่อนเทคโนโลยี IoT ทำให้เราสามารถออกแบบนวัตกรรมใหม่ได้ด้วยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ ที่สร้างสรรค์สินค้าหรือบริการที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ โดยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ที่ทันสมัยเหล่านี้ จะสามารถช่วยต่อยอดสู่การคิดค้นใหม่ๆ ในการสร้าง New Winning Product ที่รวมองค์ประกอบทั้งเทคโนโลยีและการออกแบบ ที่จะตอบรับเทรนด์การใช้ชีวิตในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง และช่วยพัฒนาโลกเราให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น” คุณสันติ ศรีวิชาญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.ไอ.ที. จำกัด (แบรนด์คูโดส) กล่าว

นอกเหนือจากนั้นเทคโนโลยี Super Sensing เปรียบเสมือนเครื่องมือในการออกแบบอนาคตที่ช่วยพลิกโฉมหลายๆ อุตสาหกรรม และยังเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยนำพาโอกาสทางธุรกิจ จนทำให้เป็น Game Changer ที่ปลดล็อคแนวคิดการออกแบบเพื่อความมั่นคงของประเทศ, สร้างความปลอดภัยให้ชุมชน, การส่งข้อมูลต่างๆ จากภูมิประเทศที่ไม่มีไฟฟ้า รวมถึงการพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ต้องถูกนำไปพัฒนาต่อในอนาคต เพื่อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่ใช้งานได้อย่างแท้จริง