6 วิธีจัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย จัดยังไงให้สวยรวยทรัพย์และถูกหลักออกแบบ!

6 วิธีจัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย จัดยังไงให้สวยรวยทรัพย์และถูกหลักออกแบบ!

เป็นกันไหม จะสร้างสิ่งปลูกสร้างอะไรสักอย่าง เราก็มักจะหาฤกษ์งามยามดีอยู่เสมอ ด้วยเหตุผลที่ว่า การเริ่มต้นด้วยฤกษ์ที่ดี มักจะมีแต่สิ่งดี ๆ ตามมาในภายหลัง เช่นเดียวกับการสร้างบ้าน นอกจากฤกษ์ต้องงามยามต้องดี ก็จะต้องมีศาสตร์และศิลป์ ในการจัดวางองค์ประกอบด้วยถึงจะครบถ้วนกระบวนความ และแน่นอนว่าศาสตร์ที่เราได้ยินกันบ่อยเหลือเกินในการก่อสร้าง คงจะหนีไม่พ้น เรื่องของฮวงจุ้ย ศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องความเชื่อและธรรมชาติ เพื่อเสริมความมั่งคั่งและสมดุลของผู้อยู่อาศัย

ถ้าจะให้พูดกันตามตรง คนเราจะสร้างบ้านทั้งที ก็อยากให้มีความเพรียบพร้อม บ้านต้องสวยดี ราศีต้องจับ อะไรประมาณนั้น หลายคนก็เลยพึ่งพาทั้งหลักความเชื่อและความจริงผสมปนกันไป จะว่างมงายก็ไม่ใช่ เพื่อความสบายใจก็ไม่เชิง เพราะความจริงแล้ว ฮวงจุ้ย มีข้อดีมากมายที่แฝงเอาไว้ภายใต้ความเชื่อสุดขลัง แถมบางหลักการยังสะท้อนถึงวิธีออกแบบบ้านที่ควรจะเป็นอีกด้วย

วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหลักฮวงจุ้ยในการตกแต่งบ้านยุคใหม่ พร้อมกับการ 6 วิธีที่น่าหยิบมาใช้ ให้การจัดบ้านสวยถูกใจ หลักฮวงจุ้ยก็ได้ หลักการออกแบบก็มี

ฮวงจุ้ย กับ การออกแบบบ้าน

เรามาว่ากันที่หลักฮวงจุ้ยและการออกแบบบ้านกันก่อน ทำความเข้าใจกันอย่างกระชับพอให้ทราบถึงหลักฮวงจุ้ยที่หลายคนยกให้มีความหมายต่อการจัดบ้านมาก ๆ ซึ่งแต่เริ่มเดิมที ฮวงจุ้ย คือศาสตร์การออกแบบที่เน้นไปในทางการสร้างสมดุล ระหว่างตัวบ้าน ธาตุทั้ง 4 และธรรมชาติ โดยจะมีการคำนวณสัดส่วนตั้งแต่พื้นที่จัดตั้ง องค์ประกอบการจัดวาง รวมไปถึงการตกแต่งและออกแบบภายใน ซึ่งหลักการภายในศาสตร์ทั้งหมดก็เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล เสริมความมั่งคั่ง รวมไปถึงการอยู่ดีกินดี มีความสุขตลอดการอยู่อาศัย สร้างความสุขกายสบายใจเป็นพิเศษ

และถึงแม้ว่าฮวงจุ้ย จะเป็นความเชื่อที่ดี แต่ก็มีหลายหลักการเสียเหลือเกินที่ไปขัดต่อการออกแบบที่ควรจะเป็น นั่นก็เลยไปสร้างความวุ่นวายใจให้กับเหล่าสถาปนิกอีกที จนหลายกรณีก็มักมีเรื่องให้โต้เถียงทางความคิดกันไม่น้อย ฉะนั้น เจ้าของบ้านก็จะต้องเลือกหยิบใช้หลักฮวงจุ้ยที่เข้ากันได้กับหลักการออกแบบด้วย จึงจะดีที่สุด

6 หลักการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยที่น่าหยิบมาใช้

 

1. ประตูทางเข้าบ้าน ปราการด่านแรกรับสิ่งดี ๆ

ฮวงจุ้ยแรกที่เหล่านักสร้างหรือปรับปรุงบ้าน น่าหยิบหลักการมาใช้คือ ฮวงจุ้ยประตูเข้าบ้าน ป้อมปราการด่านแรกที่ใช้เดินทางเข้าออกหรือรับแขกนี่แหละสำคัญ โดยหลักของฮวงจุ้ยที่ดี ประตูบ้านจะต้องดันเข้าไปด้านใน เพราะหากเป็นการผลักออก ในทางความเชื่อจะเป็นการผลักพลังงานที่ดีออกไปจากตัวบ้าน ส่วนในทางโครงสร้าง การที่ประตูผลักเข้าด้านในจะให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้อยู่อาศัยมากกว่ายามแขกมาเยือน การที่ประตูดันออกมาด้านนอก เวลาเปิด คนข้างนอกหรือแขกก็จะสามารถมองเห็นด้านในได้ เปิดอ้าซ่าชนิดที่ว่าแง้มมาหน่อยเดียวก็เห็นข้างในเสียหมด และประตูทางเข้าบ้าน จะต้องไม่มีสิ่งของวางกีดขวางให้รกรุงรัง เพื่อการเปิดรับพลังงานดีๆ นอกจากนี้ยังดูผ่อนคลายสบายตาอีกด้วย

2. ประตู – หน้าต่าง จัดวางให้ดี ไม่เป็นทางผีผ่าน!

หากใครเคยได้ยินความเชื่อที่ว่า “ประตูบ้านห้ามวางตรงกัน ไม่งั้นจะเป็นทางผีผ่าน” นั่นแหละคือหลักฮวงจุ้ยเต็มเปาเลย เพราะฮวงจุ้ยจัดบ้านที่ดี ประตูบ้านทั้งนอกและในไม่ควรจะวางตรงกันหรือทะลุหากันได้ เชื่อว่าจะนำแต่ความโชคร้ายเข้ามา แต่ในทางหลักการออกแบบ การวางประตูไม่ให้ซ้อนกัน จะวางคนละด้าน หรือ เยื้องกันซ้ายขวา ก็จะดีกว่ามาก เพราะในแง่ของการใช้งานจริง จะทำให้มีสัดส่วนมากขึ้น มีระดับการปิดกั้นสายตา ให้ความเป็นส่วนตัวของผู้อาศัย รวมไปถึงส่งต่อลมให้ระบายไปได้ทั่วทิศกว่าเช่นกัน
สำหรับหน้าต่างของบ้าน ฮวงจุ้ยบ้านที่ดี ต้องมีหน้าต่างบานใหญ่ เพื่อเปิดรับแสงสว่างจากภายนอก รับลมรับทรัพย์ ช่วยขับไล่พลังงานลบ นอกจากนั้น การมีบานหน้าต่างที่ใหญ่ยังช่วยให้เราเซฟพลังงานไฟในบ้านไปได้อีกเยอะ ดีไซน์บ้านแบบนี้ นอกจากจะถูกหลักฮวงจุ้ยที่ดี ยังเป็นไปตามหลักการแต่งบ้านแบบ Eco-Friendly Design อีกด้วย ดึงเอาพลังงานดีจากธรรมชาติมาใช้ สะดวกกายสบายใจ แถมได้ฮวงจุ้ยรับทรัพย์ไปเต็ม ๆ

3. บันไดบ้าน ทางผ่านพลังงานดี

หลายคนอาจเคยฝันอยากมีบันไดวนหรู ๆ หรือบันไดที่มีความอลังวังเวอร์ แต่เอาเข้าจริง บันไดบ้านที่ตรตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี ต้องไม่อยู่กลางบ้าน เพราะเชื่อว่าจะไปบดบังพลังงานดีให้อ่อนแรงลง อยู่อาศัยแล้วจะไม่ราบรื่น ไหนจะบันไดที่ไม่ควรมีทางขึ้นสองฝั่ง เพราะเป็นภาพจำที่เรามักเห็นตามเมรุในวัด จะยิ่งสื่อไปในเชิงไม่ดีเอาเสียมาก ๆ ดูแล้วปราศจากความสุขเข้าไปใหญ่ และเมื่อมองถึงหลักความเป็นจริง สมัยนี้การมีบันไดกลางบ้านไม่เป็นที่นิยมอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลในเรื่องเปลืองพื้นที่บ้าน ทำให้สัดส่วนดูคับแคบ ฉะนั้น การสร้างบันไดไว้ชิดฝั่งใดฝั่งหนึ่ง จึงเป็นการเพิ่มพื้นที่บ้าน ประหยัดพื้นที่ใช้สอย ดูโล่งโปร่งสบาย แค่มองก็น่าพึงพอใจ ยังไม่นับรวมกับหลักฮวงจุ้ยที่ดี เพิ่มการถ่ายเทพลังงานจากล่างสู่บนเก๋ ๆ แถมสะดวกต่อการเดินเหินอีกด้วย

4. ห้องนอน จัดวางให้ดี มีแต่สุข

มาถึงห้องนอน ตัวเอกที่สำคัญที่สุดในการอยู่อาศัย หลายคนมักเชื่อเรื่องหัวนอนปลายเท้า ชาวโบราณส่วนใหญ่มักห้ามปรามไม่ให้หันหัวเตียงไปทางทิศใต้ เพราะอาจเป็นทิศที่สื่อไปในเชิงความตาย หรือไม่ก็อาจไปเชื่อมเข้ากับมิติพิศวง ซึ่งเอาเข้าจริง ทิศใต้เป็นทิศที่สะสมความร้อนจากแสงอาทิตย์เอาไว้มากที่สุดในยามกลางวัน และมักคลายร้อนออกในยามกลางคืน ถ้าเกิดเราหันเตียงนอนไปในทิศใต้ อาจต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่ร้อนสะสมตลอดทั้งวัน จนทำให้การนอนหลับของเราไม่สบายตัว และเกิดเจ็บป่วยเอาได้ นอกจากนี้ เตียงนอนจะต้องไม่วางกลางห้อง เพื่อความสมดุลของพลังงาน ในทางเดียวกันก็เพื่อสัดส่วนที่พอเหมาะพอดี ไม่เปลืองพื้นที่ และส่งผลให้ห้องนอนดูโล่งสบาย สุขใจยามอยู่อาศัยได้จริง

สระว่ายน้ำและน้ำพุ เสริมความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง

 

5. สระว่ายน้ำและน้ำพุ เสริมความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง

หากใครเคยได้ยินหลักฮวงจุ้ยที่ว่า “หน้าน้ำหลังภูเขา” ก็คงจะรู้ดีว่า การสร้างบ้านของคนยุคก่อน ๆ มักหยิบองค์ประกอบของธรรมชาติเพื่อมาเสริมหลักฮวงจุ้ยของคนในบ้านให้มั่งคั่งร่ำรวย แต่พอเป็นยุคสมัยนี้ คงยากที่จะไปหาทำเลสร้างบ้านตามแนวเขา แนวลำธาร หลายคนเลยเลือกสร้างบ้าน ที่อย่างน้อย ๆ ให้มีสัดส่วนของธาตุน้ำผสมอยู่ ส่วนมากมักมาในรูปแบบ สระว่ายน้ำบ้าง สระน้ำย่อม ๆ หรือแม้แต่ น้ำพุ ที่ประดับตกแต่งไว้โซนหน้าหรือกลางลาน เสริมความมั่งคั่ง นำพาความโชคดีเข้าสู่บ้าน เพราะเชื่อว่าธาตุน้ำจะเป็นพลังงานดีที่คอยหมุนเวียนแต่สิ่งดี ๆ ให้ไหลมาเทมา ในแง่ของการอยู่อาศัย น้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เราผ่อนคลายได้ และยังช่วยถ่ายเทอากาศภายในให้สดชื่น ยามเบื่อหน่าย หรือรู้สึกเหนื่อย ธรรมชาติยังงสามารถบำบัดสุขภาพทางใจของเราได้ดีอีกทางหนึ่งด้วย

6. ปลูกต้นไม้ เสริมดวง ฮวงจุ้ยเฮง

ต่อเนื่องจาก หลักฮวงจุ้ยหน้าน้ำหลังภูเขา ที่เราได้กล่าวถึงการเสริมธาตุน้ำเข้ามาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของบ้าน คราวนี้ก็คงเป็นเรื่องภูเขาเลากาและป่าไม้สีเขียว ตามหลักฮวงจุ้ยนอกจากน้ำ การเลือกปลูกต้นไม้ประดับบ้าน จะยิ่งเป็นการส่งเสริมพลังงานดีให้เพิ่มมากขึ้น เสริมสมดุลและเป็นการเกื้อหนุนบ้านไปในตัว ซึ่งต้นไม้ในสมัยนี้มีความหมายที่ดีมาก หรือที่เรารู้จักในนาม ‘ต้นไม้มงคล’ แต่ละต้นก็จะเหมาะสมในลักษณะที่ต่างกันไป ในแง่ของการอยู่อาศัย ต้นไม้จะช่วยทำให้บ้านร่มเย็นขึ้น มีการหมุนเวียนอากาศให้ถ่ายเทสะดวก เพิ่มทั้งพลังงานบวกต่อสุขภาพกายและใจได้แบบทันที

ถึงแม้หลักฮวงจุ้ยบางอย่างอาจขัดกับแนวคิดของสถาปนิกไปบ้างในบางกรณี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า การจัดหรือตกแต่งบ้านสมัยนี้ ยังคงนิยมหาฮวงจุ้ยปัง ๆ มาเสริมพลังบวกให้กับการอยู่อาศัยเสมอ และถึงแม้ว่าศาสตร์ของฮวงจุ้ย จะเป็นความเชื่อ แต่ทั้ง 6 ข้อด้านบนก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทั้งความเชื่อและความจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็สามารถไปด้วยกันได้ในแง่การใช้งานจริงนั่นเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *